โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามต่างประเทศ ขานรับรัฐคลายล็อกเฟส 5 ช่วยกระตุ้น ศก. รวมถึงความคาดหวังการทำ Window dressing ในวันสุดท้ายของสิ้นไตรมาส 2/63
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสผันผวนในทิศทางที่ดีดตัวขึ้น ซึ่งขณะนี้ตลาดถูกปกคลุมด้วยสถานการณ์โควิด-19 และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปตาม Sentiment ของ 2 ประเด็นดังกล่าวทั้งในทางที่ดีและไม่ดีตามสถานการณ์ที่เข้ามาในแต่ละวัน แต่ล่าสุดสถานการณ์ผ่อนคลายลงผลักดันให้ตลาดหุ้นต่างประเทศดีดตัวกลับ ซึ่งก็จะช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยให้ปรับขึ้นตามด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่ารัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ จะไม่ออกมาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง แม้ว่ายอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม ขณะที่ตลาดเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ส่วนในประเทศยังมีปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ เฟส 5 และคาดหวังรัฐบาลจะมีแนวทางช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงความคาดหวังการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window dressing) ในวันสุดท้ายของสิ้นไตรมาส 2/63 ขณะที่ตลาดยังจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะเริ่มทยอยออกมาในช่วงกลางเดือน ก.ค.ด้วย โดยเบื้องต้นคาดว่าผลประกอบการจะปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถ้าเทียบกับไตรมาส 1/63 คาดว่าจะไม่ปรับลดลงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ที่น่าจะไม่ได้รับผลขาดทุนจากสต๊อกค่อนข้างมากเหมือนในช่วงไตรมาสแรก
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนตลาดในวันนี้น่าจะเป็นแรงซื้อกระจายในหลายกลุ่ม โดยให้น้ำหนักในกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กเป็นหลัก พร้อมมองแนวรับที่ 1,320 จุด และแนวต้านที่ 1,340-1,350 จุด