หุ้นปิดเช้าบวก 2.51 จุด รีบาวนด์หลังร่วงแรง ขานรับข่าวสหรัฐฯ ยันไม่เลิกข้อตกลงการค้ากับจีน แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ แต่ upside จำกัดเนื่องจากตลาดยังไม่มีข่าวบวกเข้ามา แต่ตลาดได้ปรับตัวลงไปมากแล้วทำให้อาจรีบาวนด์ระหว่างทางได้บ้าง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวนด์ขึ้นหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปแรงเมื่อวานนี้ แต่ upside ตลาดก็มีจำกัด ซึ่งตลาดบ้านเรายังได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นมายืนเหนือระดับ 40 เหรียญ/บาร์เรล ทำให้ไปหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง แต่สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องที่ยังสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนอยู่ ซึ่งล่าสุดเกาหลีใต้ก็ประกาศจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้อาจจะมีผลต่อมาตรการ Travel Bubble ของไทยที่ยังไม่ได้ประกาศออกมา
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้านี้ก็เหวี่ยงตามกระแสข่าวที่ออกมาจากสหรัฐฯ ในช่วงแรกก็มีข่าวสหรัฐฯ คว่ำข้อตกลงการค้าจีน ทำให้ตลาดฯ ต่างปรับตัวลงกัน แต่ต่อมาไม่นานก็มีข่าวสหรัฐฯ ออกมายืนยันไม่ยกเลิกข้อตกลงการค้าจีน ตลาดภูมิภาคก็เริ่มพลิกกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้เป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สในช่วงเช้าก็เหวี่ยงตามกระแสข่าวดังกล่าว โดยปรับตัวลงไป 400 จุดในช่วงเช้า ก่อนที่จะพลิกกลับมายืนในแดนบวก
อย่างไรก็ดี บ้านเราให้รอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,354.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.19% มูลค่าซื้อขายราว 26,327 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดากล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ แต่ upside จำกัด เนื่องจากตลาดยังไม่มีข่าวบวกเข้ามา แต่ตลาดได้ปรับตัวลงไปมากแล้วทำให้อาจรีบาวนด์ระหว่างทางได้บ้าง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,340-1,360 จุด