ครม.เห็นชอบลดภาษีควบรวมกิจการธนาคารพาณิชย์ไทย มั่นใจไม่สูญเสียรายได้
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย กำหนดหลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ และอาคารชุดตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 รวม 2 ฉบับ ซึ่งเดิมที่ประชุม ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อสนับสนุนการควบรวมธนาคารพาณิชย์ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมา
ทั้งนี้ มีสาระสำคัญคือการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ให้แก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารพาณิชย์ที่ควบเข้ากัน หรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งจะมีการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอน และค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องในการควบรวมธนาคารพาณิชย์ โดยการออกร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวนี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนการจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดในอัตราร้อยละ 0.01 สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ควบรวมเข้ากัน หรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กันตั้งแต่วันถัดจากที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังได้จัดทำรายงานตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐบาลว่าการออกประกาศฉบับนี้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 600-1,400 ล้านบาท แต่จะได้รับการชดเชยด้วยการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในส่วนของมาตรการภาษีเพื่อขจัดอุปสรรคการควบรวมกิจการของธนาคารพาณิชย์ไทยนั้น ถือเป็นการดำเนินการกิจการอย่างต่อเนื่อง ถือได้ว่ารัฐไม่สูญเสียรายได้ทางภาษีแต่อย่างใด