หุ้นไทยปิดพลิกบวก 5.34 จุด ตาม MSCI ปรับน้ำหนักลงทุน แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ แนะให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของต่างประเทศที่จะทยอยออกมา ซึ่งก็คงจะออกมาแย่อยู่แล้ว
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน โดยดัชนีเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่าตลาดอื่น โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างติดลบราว 1% ตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบกว่า 100 จุด จากความกังวลสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศนโยบายฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะดำเนินการกับจีนในวันนี้ หลังจากที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง
ส่วนเรื่องคลายล็อกดาวน์ เฟส 3 ของไทย ที่ออกมาก็ถือว่าคลายล็อกออกมาเกือบจะทั้งหมดแล้ว และยังมีการขยับเวลาช่วงเคอร์ฟิวด้วย ถือว่าเป็นปัจจัยบวกให้แก่ตลาด แต่การปรับน้ำหนักของ MSCI ที่มีผลวันนี้ ทำให้ตลาดมีความผันผวน เห็นได้ชัดที่หุ้น BANPU ที่โดนออกจากการคำนวณ MSCI Thailand Index อย่างไรก็ดี แม้ตลาดจะแพง แต่เชื่อว่ายังไม่ได้แย่ เพราะยังได้รับแรงซื้อจากพวกที่ต้องการจะซื้อแต่ซื้อไม่ทัน ก็ยังคอยหาจังหวะในการเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,342.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.40% มูลค่าการซื้อขาย 96,186.64 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 760.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 492.64 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,504.29 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 4,251.62 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up โดยมีแนวรับ 1,320 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด พร้อมให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของต่างประเทศที่จะทยอยออกมา ซึ่งก็คงจะออกมาแย่อยู่แล้ว อย่างตัวเลข PMI ภาคการผลิตทั้งของจีน, สหรัฐฯ และประเทศในยุโรป และยังต้องติดตามราคาน้ำมันด้วย ซึ่งคาดว่าจะผันผวนก่อนการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 9-10 มิ.ย.นี้ และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าน่าจะออกมาดี เพราะเวลานี้ต่างก็ต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19