หุ้นไทยปิดลบ 1.51 จุด ตลาดผันผวน เผชิญแรงขายทำกำไรหลังกังวล Valuation ตึงตัว แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,300-1,330 จุด พร้อมให้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในสัปดาห์หน้าด้วย
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในลักษณะกระจาย ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ติดลบราว 1% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ติดลบกว่า 100 จุด ด้วย แต่ช่วงสั้นราคาน้ำมันยังอยู่ในทิศทางที่ดี
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเรามีความกังวลเกี่ยวกับ Valuation ที่ตึงตัวทำให้ต้องเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ยังไม่หลุดแนว 1,300 จุดก็ถือว่ารับได้ และรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ซึ่งก็ต้องจับตาเรื่องที่จะยืดระยะเวลาใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน และคลายล็อกดาวน์ เฟส 3 จะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงให้ติดตามเรื่องเกณฑ์ราคาเสนอขายชอร์ต (Short Sell) จะยืดระยะเวลาใช้ออกไปหรือไม่ หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นจนถึง 25 พ.ค.นี้ ซึ่งเรื่องนี้น่าสนใจ
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,320.69 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.11% มูลค่าการซื้อขาย 70,212.37 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,049.35 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 123.31 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,349.65 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,177.00 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,300-1,330 จุด พร้อมให้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในสัปดาห์หน้าด้วย