xs
xsm
sm
md
lg

โฮมโปรเพิ่มสินค้ารับกลุ่ม "นิวนอร์มอล" ล็อกดาวน์ดันยอดขายออนไลน์โต 300%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฮมโปร ยอมรับปิดเมืองทำกำไรต่ำสุดในรอบ 20 ปี แต่ต้องปิดสาขาเพื่อรักษาชีวิตและปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาล เผยยอดขายผ่านออนไลน์ เม.ย.พุ่งพรวด 200-300% พร้อมรับนิวนอร์มอลเมื่อยังไร้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เน้นจัดกลุ่มสินค้าหมวดออนไลน์มากขึ้น ประเมิน 3-6 เดือน ลูกค้ายังกล้าๆกลัวๆ ออกนอกบ้าน

น.ส.วรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "HMPRO" เปิดเผยถึงการเปิดให้บริการหลังจากรัฐบาลได้คลายล็อกดาวน์ (ปิดเมือง) ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ผลกำไรของบริษัทในไตรมาสแรกปี 2563 เป็นผลงานที่ต่ำสุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบเต็มๆ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากโฮมโปร ต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล เพื่อรักษาชีวิตมากกว่ามองเรื่องผลกำไรสุทธิ และที่น่าดีใจ พนักงานของโฮมโปร กว่า 10,000 ชีวิต ไม่พบใครติดเชื้อไวรัสโควิด-19

"ช่วงที่รัฐบาลสั่งให้ปิด เราก็มานั่งคิดกันว่าจะทำอะไรกันต่อ และเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ โฮมโปรมีช่องทางด้านออนไลน์เปิดให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งตลาดส่วนนี้บริษัทยังมีไม่มาก แต่ช่วง 2 สัปดาห์ของการปิดตามคำสั่งรัฐบาล (เมษายน) ปรากฏว่ายอดการสั่งซื้อสินค้าขึ้นมากว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือเติบโต 200-300 เปอร์เซ็นต์ตลอดเดือน โตกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มออนไลน์เดียวกัน ทำให้โฮมโปรต้องวางกลยุทธ์ในการส่งสินค้าที่รวดเร็ว เพื่อการรับรู้รายได้ โดยพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ ก็ต้องเพิ่มกำลังในการส่งออเดอร์ตามความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกัน ก็โยกพนักงานในส่วนที่ปิดสาขา มาร่วมกันทำธุรกิจออนไลน์"

อย่างไรก็ตาม ยอดขายผ่านออนไลน์คงเทียบกับการขายผ่านสาขาไม่ได้ แต่การที่เรามีสาขาทั่วประเทศประมาณ 106 ถึง 107 สาขา แต่ปิดไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ต้องยกออนไลน์ขึ้นมาเร็ว ส่งเร็ว สินค้าบางอย่างที่เราไม่คิดว่า ลูกค้าจะสั่งออนไลน์ ก็ยังมี เช่น ปั๊มน้ำ ที่เรามีบริการติดตั้ง หรือเครื่องปรับอากาศที่ลูกค้าก็สั่งผ่านออนไลน์ เนื่องจากอากาศร้อนมาก กลุ่มสินค้าจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาความสะอาด กลุ่มสินค้าหรือเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่รองรับการเรียนผ่านออนไลน์ หรือการทำงานอยู่ที่บ้าน (Work From Home) และกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เช่น ทีวี และเครื่องออกกำลังกาย เป็นต้น

สำหรับแนวโน้มของตลาดค้าปลีกในระยะหลังจากคลายล็อกดาวน์นั้น ระยะแรก ลูกค้าจะมีความระมัดระวังในการออกนอกบ้าน ตลาดออนไลน์ก็ยังคงมีบทบาท และด้วยความคุ้นเคยและพฤติกรรมที่เคยใช้สินค้าผ่านออนไลน์ช่วงทำงานที่บ้านนั้น ก็จะทำให้ตลาดออนไลน์มีแนวโน้มเติบโต ส่วนกลุ่มลูกค้า Gen X (ผู้สูงอายุ) ที่ไม่นิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ เราเห็นพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ ช่วงที่ปิดสาขามีการโทรศัพท์เข้ามาสอบถามราคาและรายละเอียดของสินค้า ก่อนจะให้สาขาส่งสินค้าไปยังที่บ้าน หรือให้คนมารับสินค้าแทน

"หลังเปิดให้บริการแล้ว เราก็มองว่าความท้าทายยังมีอยู่ โดยประการแรก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ไม่รู้กำลังซื้อจะกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ เมื่อไหร่ ประการที่สอง ความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย ผู้บริโภคก็ยังกังวล ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนออกมา และเชื่อว่าอย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือน ลูกค้าคงยังไม่กล้าออกจากบ้าน โดยเราจะเพิ่มสินค้าในหมวดของออนไลน์มากขึ้น และต้องพยายามสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า เพราะนั่นแปลว่า เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้านโฮมโปรแล้ว ทางเราต้องมีมาตรการป้องกันและเก็บเป็นฐานข้อมูล หากรัฐบาลต้องการ ขณะที่ด้วยพื้นที่ของโฮมโปรประมาณ 5,000-7,000 ตารางเมตร หากลูกค้ามาใช้บริการ 1,000 คนต่อคนกินพื้นที่ 70 ตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 5 ตารางเมตร โฮมโปรผ่านฉลุยอยู่แล้ว เราไม่ติดเรื่องการสัญจรภายในโฮมโปร เนื่องจากหากเทียบกับลูกค้าที่เดินในซูเปอร์มาร์เกตแล้ว 1 คนในซูเปอร์มาร์เกตที่ซื้อ 5 ตะกร้า จะเท่ากับลูกค้าโฮมโปรซื้อสินค้า 1 ตะกร้า ซึ่งมาจากเรื่องราคาสินค้าที่สูงกว่าในซูเปอร์มาร์เกต"

น.ส.วรรณี กล่าวว่า ตลาดการตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน (รีโนเวต) น่าจะได้รับความนิยม เนื่องจากช่วงที่อยู่ในบ้าน ก็จะเกิดความต้องการปรับปรุงบ้านใหม่ โดยโฮมโปร มี โฮมเซอร์วิส ในการให้บริการและให้คำแนะนำเกี่ยวกับดูแลบ้าน ซึ่งเรามีคู่ค้าไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย และผลของการเติบโตของยอดขาย จะมีส่วนสำคัญต่อซัปพลายเชน ผู้ผลิตสินค้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราเชื่อว่า เมื่อเปิดให้บริการจะมีกำลังซื้อที่ต้องการสินค้าจะเข้ามาใช้บริการ (ดีมานด์อั้น) และอีกกลุ่มจะโยงเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ก็อาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไประยะหนึ่ง

"ยังไม่สามารถตอบได้ว่าผลประกอบการปีนี้จะเป็นอย่างไร เพราะเราต้องประเมินสถานการณ์หลังเปิดให้บริการไปอีกสักระยะ แม้ว่าเราจะเห็นว่า ค้าปลีกในต่างประเทศมีการเปิดให้บริการแล้ว ก็มียอดขายที่เติบโต แต่ของไทยต้องรอดู"


กำลังโหลดความคิดเห็น