หุ้นไทยปิดเช้าร่วง 17.87 จุด ตามตลาดต่างประเทศหลังเฟดตอกย้ำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ดี นักลงทุนขายหลังไม่ผ่านด่าน 1,300 จุด แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะยังติดลบอยู่เพราะตัวแปรเศรษฐกิจไม่สามารถพลิกกลับมาในชั่วข้ามคืน
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างติดลบกันตามตลาดสหรัฐฯ โดยนักลงทุนได้เบนความสนใจจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หันไปหาเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็ได้มาตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังไม่ค่อยดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นโดยรวมไม่ดี ซึ่งนักลงทุนต่างชาติไม่ได้ซื้อเลย กลุ่ม Emerging Market ไม่ได้ปรับขึ้นเลย
นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในบ้านเราประกาศออกมาแล้ว 300 บริษัท ปรากฏติดลบ 60% แย่กว่าที่คาดไว้ ขณะที่หุ้นที่ขยับขึ้นก็มาจากงบฯ ของตัวเองที่จะมาอ้างอิงในการเล่นเก็งกำไร ซึ่งก็เป็นปัจจัยเฉพาะตัว รวมทั้งดัชนีฯ ไม่สามารถผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,300 จุดขึ้นไปได้ ทำให้คนไม่มั่นใจและวิตกจะกลับไปแถว 1,250 จุดอีกครั้งจึงได้ขายทำกำไรออกมาก่อน
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,276.68 จุด ลดลง 17.87 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.38% มูลค่าซื้อขายราว 25,602 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายมงคลกล่าวว่า ตลาดฯ คงจะยังติดลบอยู่ เพระตัวแปรเศรษฐกิจไม่สามารถพลิกกลับมาในช่วงข้ามคืน พร้อมให้ติดตามการประชุมในเรื่องของ บมจ.การบินไทย (THAI) ในช่วงบ่ายวันนี้ และติดตามนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมา
พร้อมให้แนวรับ 1,280-1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,300 จุด