หุ้นไทยปิดพุ่ง 12.39 จุด ดีกว่าภูมิภาค จากโมเมนตัมคลายล็อกดาวน์ และราคาน้ำมันขยับขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up หากไม่มีปัจจัยลบอะไรเข้ามา ซึ่งดัชนีก็น่าจะขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุดได้ จากสัญญาณตลาดที่ยังสู้อยู่
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวก จากโมเมนตัมการคลายล็อกดาวน์ในแต่ละประเทศ รวมถึงไทยด้วย
รวมถึงได้ Sentiment จากซาอุดีอาระเบียได้ออกมาระบุเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า จะลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน มิ.ย.นี้ นอกเหนือจากที่ได้ปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เป็นแรงดันให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นมาหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานวันนี้ด้วย อีกทั้งยังอาจจะทำให้ประเทศอื่นอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต อาจจะช่วยลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วย
นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจาก IVL หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 1/63 ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ปัจจัยจากต่างประเทศก็ยังมีความกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่มีการปลดล็อกดาวน์ อย่างเกาหลีใต้ และเยอรมนี เป็นต้น
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,299.69 จุด เพิ่มขึ้น 12.39 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.96% มูลค่าการซื้อขาย 59,394.53 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up หากไม่มีปัจจัยลบอะไรเข้ามา ซึ่งดัชนีฯก็น่าจะขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุดได้ จากสัญญาณตลาดที่ยังสู้อยู่ โดยให้แนวรับ 1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,310 จุด
พร้อมให้จับตาการทบทวนน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ซึ่งจะมีหุ้นเข้า/ออก อะไรบ้าง และติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในไทย ถ้าไม่เพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักก็น่าจะช่วยปลดล็อกดาวน์ได้ ส่วนต่างประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แม้ขณะนี้ยังอยู่ในโทนบวกก็ตาม