ครม.อนุมัติขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชนเฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งมีเงินได้ไม่เกินปีละ 1.8 ล้านบาท ออกไปอีก 3 ปี หวังช่วยบรรเทาภาระภาษี สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนให้รวมตัวประกอบกิจการเพื่อสร้างรายได้ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงฉบับที่ ... (พ.ศ. …) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน) มีสาระสำคัญคือ เป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับวิสาหกกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล มีเงินได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ออกไปอีก 3 ปี สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จากเดิมที่กฎกระทรวง ฉบับที่ 330 (พ.ศ.2560) สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562
ทั้งนี้ การดำเนินการตามมาตรการภาษีดังกล่าวนั้น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่ส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้ เนื่องจากปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อยู่แล้ว แต่หากกำหนดให้จัดเก็บภาษีเงินได้ของวิสาหกิจชุมชน จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 15 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การขยายเวลาการยกเว้นภาษีจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในเรื่องการบรรเทาภาระภาษีให้วิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศและสามารถพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าและบริการของชุมชนให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอนาคต และ ยังเป็นการช่วยสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนให้รวมตัวประกอบกิจการเพื่อสร้างรายได้และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วย