อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ขอผ่อนผันการจัดทำและส่งรายงานที่แสดงฐานะและผลการดำเนินงานสำหรับงบการเงินรายไตรมาส สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 เหตุได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จนเป็นเหตุให้บริษัทฯ ไม่สามารถนำส่งงบได้ โดยจะนำส่งภายในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563
นายวรวุฒิ หิรัญยไพศาลสกุล เลขานุการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD แจ้งว่า บริษัทแจ้งความประสงค์จะขอผ่อนผันการจัดทำและส่งรายงานที่แสดงฐานะและผลการดำเนินงานสำหรับงบการเงินรายไตรมาส สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 โดยจะนำส่งภายในวันที่14 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) จนเป็นเหตุให้บริษัทฯ ไม่สามารถจัดทำและนำส่งรายงานที่แสดงฐานะและผลการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ด้วยมีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดอุปสรรคหรือข้อจำกัดในการดำเนินงานหรือการเข้าถึงข้อมูลอย่างเป็นสาระสำคัญต่อการจัดทำรายงานดังกล่าว
กล่าวคือ บริษัทฯ มีธุรกิจก่อสร้างหลักอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมีมาตรการปิดประเทศ หรือ Lockdown คือ ประเทศอินเดีย และประเทศบังกลาเทศ ที่มีการประกาศใช้มาตรการปิดประเทศ หรือ Lockdown ถึงวันที่ 30 เมษายน และ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทย่อย สาขา และกิจการร่วมค้าในต่างประเทศดังกล่าวมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของภาครัฐของประเทศนั้นๆ อย่างเคร่งครัด จึงส่งผลต่อการเข้าถึงข้อมูลและการสอบทานงบการเงินของผู้สอบบัญชี อันมีผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทฯ ในการเข้าถึงข้อมูลบางส่วนที่มีนัยสำคัญของบริษัทย่อย สาขา และกิจการร่วมค้าในต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องนำมาใช้เพื่อการจัดทำและส่งรายงานที่แสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563
โดยมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัทย่อย สาขา และกิจการร่วมค้าดังกล่าว คิดเป็นประมาณร้อยละ 24.5 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของงบการเงินรวมในงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 รายได้จากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างของบริษัทย่อย สาขา และกิจการร่วมค้าคิดเป็นประมาณร้อยละ 33 ของรายได้จากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างรวมและกำไรขั้นต้นคิดเป็นร้อยละ 34.7 ของกำไรต้นในงบกำไรขาดทุนและงบแสดงกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ซึ่งส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการปิดงบการเงินและการสอบทานงบการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการหารือกับผู้สอบบัญชีในประเด็นดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ และผู้สอบบัญชีมีความเห็นร่วมกันว่าบริษัทฯ ไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินรวมสำหรับรอบบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต.ภายในกำหนดระยะเวลา วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 นี้ได้ โดยถ้าหากบริษัทฯ จัดทำงบการเงินโดยไม่นำเอาผลกระทบจากเหตุผลดังกล่าวมาพิจารณาเพื่อจัดทำงบการเงินรวม จะทำให้งบการเงินของบริษัทฯ อาจมีสาระสำคัญที่ไม่เพียงพอสำหรับผู้ใช้งบการเงินในการพิจารณาและคณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการขยายระยะเวลาในการจัดทำและส่งรายงานงบการเงินออกไปเป็นภายในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563 มีความจำเป็นและเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยังควบคุมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนการเดินทางระหว่างประเทศของกรรมการบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการจัดทำและเปิดเผยรายงานแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ ประกอบด้วยข้อมูลที่สำคัญ และเป็นไปตามข้อกำหนดของทางการ ดังนั้น การขอขยายเวลาออกไปภายในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563 นั้น จะทำให้บริษัทฯ และผู้สอบบัญชี มีระยะเวลาที่เพียงพอในการรวบรวม จัดทำ และตรวจสอบข้อมูลที่จะมีการเปิดเผยให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้พิจารณารับทราบ ตลอดจนให้บริษัทย่อย บริษัทร่วม และกิจการร่วมค้าในต่างประเทศสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของทางการของแต่ละประเทศได้อย่างเหมาะสม
โดยระยะเวลาที่บริษัทฯ ขอผ่อนผันการจัดทำและส่งรายงานแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานนั้น เป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. และทางฝ่ายบริหารของบริษัทฯ จะมีการดูแลและติดตามให้มีการจัดทำจัดส่ง และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวตามข้อกำหนด คณะกรรมการตรวจสอบจึงเห็นสมควรว่า บริษัทฯ มีความจำเป็นในการขอผ่อนผันระยะเวลาส่งงบการเงินภายในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เพื่อให้บริษัทฯ มีระยะเวลาเพิ่มมากขึ้นในการรวบรวม จัดทำ และตรวจสอบรายงานแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินการที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ เพียงพอ และเป็นไปตามข้อกำหนด