ก.ล.ต. สั่งลงโทษ "ณิชาภา ขันธสุวรรณ" มาร์เก็ตติ้งสังกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เหตุแอบซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนผู้ลงทุนและอำพรางว่าผู้ลงทุนเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขายเอง
ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบ "นางสาวณิชาภา ขันธสุวรรณ" ผู้แนะนำการลงทุนหรือมาร์เก็ตติ้ง สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET ฐานรับมอบหมายจากผู้ลงทุนในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนผู้ลงทุน และอำพรางว่าผู้ลงทุนเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการตรวจสอบจากบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2559 - ธันวาคม 2561 นางสาวณิชาภาได้สั่งซื้อขายหุ้นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (1) ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของตน และเป็นผู้สร้าง username และ password สำหรับใช้ซื้อขายดังกล่าว และ (2) ผ่านการคีย์คำสั่งในโปรแกรมการส่งคำสั่งของบริษัท รวมทั้งได้นำเงินส่วนตัวฝากเข้าบัญชีซื้อขายของลูกค้าดังกล่าวเพื่อวางเป็นหลักประกัน เมื่อเกิดผลขาดทุนในบัญชีซื้อขายของลูกค้า ซึ่งลูกค้าไม่ได้โต้แย้งหรือทักท้วงรายการซื้อขายที่บริษัทส่งให้
นอกจากนี้ ผู้แนะนำยังอำพรางว่าลูกค้าเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกค้ายืนยันคำสั่งซื้อขายแทนลูกค้า สำหรับการซื้อขายที่ไม่ได้ส่งคำสั่งทางอินเตอร์เน็ต
อย่างไรก็ดีการกระทำของนางสาวณิชาภาข้างต้น เป็นการรับมอบหมายจากผู้ลงทุนในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนผู้ลงทุน และอำพรางว่าผู้ลงทุนเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ และเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. จึงพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 เป็นเวลา 9 เดือน 22 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2563
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังและไม่มอบหมายให้ผู้แนะนำการลงทุนตัดสินใจซื้อขายแทน ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ลงทุนต้องการให้บุคคลอื่นสั่งซื้อขายแทนต้องทำหนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ และควรหมั่นตรวจสอบเอกสารยืนยันการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นประจำซึ่งต้องเป็นเอกสารที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์ หากมีข้อสงสัยควรติดต่อฝ่ายปฏิบัติการด้านหลักทรัพย์โดยเร็ว