ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 เม.ย. 2563
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 และการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแนวทางสำหรับการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,242.49 จุด เพิ่มขึ้น 704.81 จุด หรือ +2.99%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,874.56 จุด เพิ่มขึ้น 75.01 จุด หรือ +2.68% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,650.14 จุด เพิ่มขึ้น 117.78 จุด หรือ +1.38%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแผนการของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่จะเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง และการประกาศขั้นตอนที่คล้ายกันของหลายประเทศในยุโรป ซึ่งเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังจากที่มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์มานานหลายสัปดาห์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.63% ปิดที่ 333.47 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,499.01 จุด เพิ่มขึ้น 148.85 จุด หรือ +3.42%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,625.78 จุด เพิ่มขึ้น 324.24 จุด หรือ +3.15% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,786.96 จุด เพิ่มขึ้น 158.53 จุด หรือ +2.82%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแผนเปิดเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปของสหรัฐฯ และตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 ด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,786.96 จุด เพิ่มขึ้น 158.53 จุด หรือ +2.82%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 18 ปีนับตั้งแต่ต้นปี 2545 เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับผลผลิตน้ำมันปริมาณมากทั่วโลก และพื้นที่จัดเก็บน้ำมันที่ลดน้อยลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ร่วงลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 8.1% ปิดที่ 18.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2545 และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 19.7%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 28.08 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลง 10.8% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) โดยร่วงหลุดระดับ 1,700 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพื่อเข้าซื้อหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่มีรายงานความคืบหน้าในการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 และรัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลงในหลายรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลง 32.9 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,698.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำร่วง 3.1%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. ร่วงลง 32.7 เซ็นต์ หรือ 2.09% ปิดที่ 15.295 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 785.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 10.20 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 2,130.9 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่นสกุลเงินยูโร หลังจากมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศแผนการที่จะเปิดเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกครั้งหลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลง
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% สู่ระดับ 99.7987 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.59 เยน จากระดับ 107.63 เยน, อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9676 ฟรังก์ จากระดับ 0.9689 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.4022 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4111 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0867 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0845 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2482 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2459 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6353 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6311 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 24,242.49 จุด เพิ่มขึ้น 704.81 จุด, +2.99%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 8,650.14 จุด เพิ่มขึ้น 117.78 จุด, +1.38%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,874.56 จุด เพิ่มขึ้น 75.01 จุด, +2.68%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,786.96 จุด เพิ่มขึ้น 158.53 จุด, +2.82%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,499.01 จุด เพิ่มขึ้น 148.85 จุด, +3.42%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,625.78 จุด เพิ่มขึ้น 324.24 จุด, +3.15%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,588.72 จุด เพิ่มขึ้น 986.11 จุด, +3.22%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,614.60 จุด เพิ่มขึ้น 2.35 จุด, +0.09%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,407.34 จุด เพิ่มขึ้น 20.81 จุด, +1.50%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,634.82 จุด เพิ่มขึ้น 154.21 จุด, +3.44%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,380.00 จุด เพิ่มขึ้น 373.55 จุด, +1.56%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,838.49 จุด เพิ่มขึ้น 18.55 จุด, +0.66%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,914.53 จุด เพิ่มขึ้น 57.46 จุด, +3.09%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,487.50 จุด เพิ่มขึ้น 71.20 จุด, +1.31%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,544.70 จุด เพิ่มขึ้น 77.10 จุด, +1.41%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,897.26 จุด เพิ่มขึ้น 607.06 จุด, +3.15%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,597.04 จุด เพิ่มขึ้น 221.56 จุด, +2.14%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 5,789.97 จุด เพิ่มขึ้น 264.37 จุด, +4.78%