“ออมสิน” เรียกผู้ลงทะเบียนเข้าทำสัญญาที่สาขาได้แห่งละ 50 คน โดยแต่ละวันจะมียอดรวมทุกสาขาจะมีผู้ได้ทำสัญญา 50,000 ราย เริ่ม 8 พ.ค.นี้ คาดกลุ่มแรงงานอิสระและกลุ่มผู้มีรายได้ประจำลงทะเบียนของกู้รวมกัน 2.4 ล้านราย รับปากภายใน 3 เดือน จะทยอยเรียกทำสัญญาให้ครบทุกราย ส่วนผู้ที่ระบบลงทะเบียนได้ระบุเป็นผู้ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ หรือเป็นลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ที่มีดอกเบี้ยค้างจ่าย จะไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการนัดผู้ลงทะเบียนขอสินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้กู้สินเชื่อกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท และสินเชื่อผู้มีรายได้ประจำ วงเงินกู้สูงสุด 50,000 บาท เข้าทำสัญญาเงินกู้กับสาขาของธนาคารฯ ว่า โดยเบื้องต้น ธนาคาออมสินกำหนดให้แต่ละสาขาสามารถนัดลูกค้าเข้ามาทำสัญญาเงินกู้ได้สาขาละไม่เกิน 50 คนต่อวัน หรือราว 50,000 รายต่อวัน เมื่อพิจารณาจากจำนวนสาขาธนาคารออมสินที่มี 1,000 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผู้อำนวยธนาคารออมสิน ยังย้ำเพิ่มเติมว่า แม้จะมีการนัดหมายให้มาทำสัญญาแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ลงทะเบียนทุกรายจะได้รับการอนุมัติสินเชื่อ เนื่องจากลูกค้ารายใหม่ของธนาคารฯ ยังต้องยินยอมให้ธนาคารออมสินเข้าตรวจสอบข้อมูลการกู้เงินผ่านเครดิตบูโรด้วย โดยคาดว่าการตรวจสอบดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน และหากรายใดที่มีปัญหาว่ายังเป็นหนี้เสีย (NPLs) ในธนาคารแห่งอื่นๆ แล้ว จะไม่สามารถขอกู้ยืมเงินตามโครงการดังกล่าวนี้ของธนาคารออมสินได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการนัดหมายให้ผู้ลงทะเบียนแล้วให้เข้ามาทำสัญญาเงินกู้กับธนาคารออมสินนั้น นายชาติชาย กล่าวว่า จะพยายามทยอยยดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน โดยการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มแรงงานอิสระและผู้มีรายได้ประจำในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น จะมีเป็นจำนวนมากถึง 2.4 ล้านราย เมื่อเทียบกับในปัจจุบันที่ธนาคารออมสินสามารถปล่อยสินเชื่อรายย่อยได้เพียงปีละ 1 ล้านราย
นอกจากนี้ หลังผู้ลงทะเบียนกู้สินเชื่อฉุกเฉินฯ นี้ผ่านการอนุมัติให้ทำสัญญาเงินกู้กับธนาคารออมสินแล้ว หากรายใดที่ยังไม่เคยมีบัญชีกับธนาคารออมสินก็ต้องทำการเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารด้วย เนื่องจากการโอนเงินสินเชื่อจะดำเนินการผ่านบัญชีของธนาคารออมสินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากในอนาคตลูกค้าจะได้สามารถนำเงินเข้าบัญชีเพื่อจ่ายชำระคืนหนี้กับธนาคารได้โดยทันที ส่วนผู้ลงทะเบียนแล้วได้รับแจ้งจากระบบว่ามีคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์การขอรับสินเชื่อ รวมถึงกลุ่มที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีดอกเบี้ยค้างจ่าย จะไม่สามารถกู้ขอเงินสินเชื่อฉุกเฉินดังกล่าวนี้ได้