xs
xsm
sm
md
lg

โควิด-19 ดันบ้านชานเมืองเติบโต "KUN" เปิด 2 โครงการรับกำลังซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นางประวีรัตน์ เทวอักษร
"วิลล่า คุณาลัย" ชี้ไวรัสโควิด-19 ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองให้สนใจซื้อบ้านมากขึ้น ไตรมาส 1/63 ยันไม่กระทบยอดขาย ส่งซิกผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก เป็นไปตามเป้าหมาย ชี้ช่วงที่ผ่านมายอดผู้เข้าชมโครงการ (Walk In และ Call in) เพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุด ยอดตุน Backlog ในมือกว่า 150 ล้านบาท ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร” เดินหน้าปรับแบบบ้าน รูปแบบการก่อสร้าง ควบคุมต้นทุน รักษากระแสเงินสด มั่นใจ New Normal พาบ้านชานเมืองเติบโต

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถคลี่คลาย และได้แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นภายในระยะเวลาอันใกล้ บริษัทฯ ได้ใช้การวางกลยุทธ์แบบ Worst case scenario มาเป็นหลักคิด เพื่อวางรูปแบบการทำงานให้ชัดเจน และทุกๆคนในองค์กรมีความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตรงกัน

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทฯ นั้น โดยส่วนตัวยังคงเชื่อมั่นในอัตราการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มแตะระดับเป้าหมายที่วางไว้ โดยเป้าหมายของไตรมาส 1/2563 เป็นไปตามที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ และในปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดจองบ้านรอโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2/2563 เป็นจำนวนกว่า 150 ล้านบาท ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ภายในระยะเวลาที่เหลือมั่นใจได้ว่าครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทฯ สร้างการเติบโตได้ตามที่ตั้งเป้าที่ไว้อย่างแน่นอน


“ปัจจุบันมี Backlog มูลค่ารวมประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา จำนนวนยอดผู้เข้าชมโครงการ (Walk In) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2-3 เดือนแรกที่ผ่านมา (มกราคม-มีนาคม 2563) มียอดผู้เข้าชมโครงการเข้ามาในระดับที่สูงขึ้น เป็นเพราะบริษัทฯ มีการทำการตลาดได้ในวงที่กว้างขึ้น รวมถึงการเป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากที่ KUN ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ซึ่งนับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า”

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทฯ ยังมั่นใจถึงทิศทางการดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,300 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ คุณาลัย บีกินส์ 2 ซึ่งเป็นโครงการประเภททาวน์โฮม รวม 363 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท และ 2.โครงการคุณาลัย จอย 2 ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น รวม 411 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จะเป็นโครงการที่สร้างเสร็จบางส่วนก่อนเปิดการขายอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทฯจะสามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้นหลังการขาย แต่ในทางกลับกัน หากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงยืดเยื้อ บริษัทฯ อาจจะพิจารณาการปรับเป้าหมาย และเลื่อนแผนการลงทุนในทิศที่ 3 ออกไป เพื่อลดความเสี่ยงของบริษัทฯ


"บริษัทฯค่อยๆ พัฒนาโครงการ เพื่อรองรับความต้องการที่จะกลับมาหลังสถานการณ์คลี่คลาย ขณะเดียวกัน ได้ปรับรูปแบบด้านสื่อให้เหมาะต่อชีวิตแบบ social distance รวมถึงได้ปรับบ้านบางแบบ มาเป็นแบบ conventional ทำให้สามารถควบคุมระยะเวลาการก่อสร้าง ให้สอดคล้องต่อกระแสเงินสดที่มีได้ และบ้านบางแบบเป็น prefab (รูปแบบสำเร็จรูป) เพื่อเร่งในกลุ่มสินค้าขายดี ขณะเดียวกัน ควบคุมค่าใช้จ่าย ระมัดระวังเรื่องสินค้าคงค้าง รวมถึงรักษากระแสเงินสด และได้จัดสรรเรื่องการเงินให้เพียงพอสำหรับ 1 ปี เพื่อที่จะผ่านพ้นวิกฤตได้"
กำลังโหลดความคิดเห็น