ตลท. สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนมีนาคม 2563 เผยดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในอาเซียน เนื่องจากหลายธุรกิจปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหาร ตลอดจนธุรกิจค้าปลีก
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคม 2563 ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงขึ้นจากเดือนก่อนเช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
" ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,125.86 จุด ลดลง 16% จากเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ดี มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 71,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8% จากค่าเฉลี่ยทั้งปี 2562 ด้านผู้ลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ 78,363 ล้านบาทในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดในเอเชีย อย่างไรก็ตาม SET Index ในเดือนมีนาคมปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในอาเซียน เนื่องจากหลายธุรกิจปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหาร ตลอดจนธุรกิจค้าปลีกและบริการทางการแพทย์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในดัชนีของกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวปรับตัวลดลงน้อยกว่า SET Index "
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะต่อไป นอกจากประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดแล้ว ผู้ลงทุนควรให้ความสำคัญกับความขัดแย้งระหว่างประเทศที่กระทบราคาน้ำมัน การปรับตัวของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะการรองรับรูปแบบและปริมาณความต้องการภายในประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนมาตรการของรัฐด้านการเงินและการคลังเพื่อการประคับประคองเศรษฐกิจในระยะนี้
ทั้งนี้ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย หรือ SET Index ณ สิ้นเดือนมีนาคมปี 2563 ปิดที่ 1,125.86 จุด ลดลง 28.7% จากสิ้นปีก่อน และ 16% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า โดย กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มบริการ ลดลงน้อยกว่า SET Index โดยในเดือนมีนาคม 2563 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 78,363 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ 71,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8% จากค่าเฉลี่ยทั้งปี 2562
ด้าน Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ระดับ 13.4 เท่า และ 13.0 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 11.3 เท่า และ 12.8 เท่าตามลำดับ ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ระดับ 4.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.6%
ในส่วนของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ 12.3 ล้านล้านบาท ลดลง 27.7% จากสิ้นปี 2562 โดยในไตรมาสแรกของปี 2563 มูลค่าการระดมทุนครั้งแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 56,127 ล้านบาท ในขณะที่การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (SPO) มีมูลค่ารวม 67,592 ล้านบาท
ขณะที่ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนมีนาคม 2563 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 754,133 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 40% จากเดือนก่อน