ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ และธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 23%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,727.02 จุด เพิ่มขึ้น 24.89 จุด, +0.92% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,147.34 จุด เพิ่มขึ้น 438.21 จุด, +2.02% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,816.86 จุด เพิ่มขึ้น 135.52 จุด, +1.56% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,498.49 จุด เพิ่มขึ้น 40.85 จุด, +2.80% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,314.78 จุด เพิ่มขึ้น 3.78 จุด, +0.16% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,220.54 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด, +0.07%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลางออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บราซิล เดนมาร์ก เม็กซิโก นอร์เวย์ สวีเดน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ในการทำข้อตกลงสวอปเพื่อเพิ่มสภาพคล่องสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ระบบการเงินทั่วโลกประสบปัญหาสกุลเงินดอลลาร์ตึงตัว เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.15% สู่ระดับ 0.10% เมื่อวานนี้ และเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 2 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 6.45 แสนล้านปอนด์ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศโครงการใหม่ในการซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร โดยการดำเนินการของธนาคารกลางทั้งสองแห่งมีเป้าหมายที่จะรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย "Families First Coronavirus Response Act" ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการแจกเงินสดแก่ชาวอเมริกันวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ และมาตรการสนับสนุนทางการเงินแก่อุตสาหกรรมการบินวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์