ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทรุดตัวลงกว่า 2,000 จุดเมื่อคืน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,183.47 จุด ลดลง 376.16 จุด, -2.03% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,804.23 จุด ลดลง 119.26 จุด, -4.08% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,519.32 จุด ลดลง 1,789.75 จุด, -7.36% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,091.03 จุด ลดลง 331.29 จุด, -3.18% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,722.68 จุด ลดลง 111.65 จุด, -6.09% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,555.51 จุด ลดลง 123.13 จุด, -4.60% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,363.76 จุด ลดลง 55.67 จุด, -3.92% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 5,362.92 จุด ลดลง 373.35 จุด, -6.51%
ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันแบล็คมันเดย์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2530 หลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศมาตรการระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักร ในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ตำหนิสหภาพยุโรป (EU) ที่ไม่ดำเนินมาตรการควบคุมการเดินทางจากจีนตั้งแต่ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด
มาตรการดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างตื่นตระหนกตลอดทั้งวัน และยังเป็นสาเหตุให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กต้องใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาทีหลังจากตลาดทรุดตัวลงอย่างหนัก นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการประกาศอัดฉีดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคารเพื่อหวังลดผลกระทบของโควิด-19 นั้น ยังไม่สามารถบรรเทาความวิตกกังวลในตลาดได้