"ศุภาลัย" หวังเรื่องโควิด-19 จบเร็ว เหตุเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เป็นแรงกระทบต่อเศรษฐกิจ ส่งออก ท่องเที่ยว พร้อมยืนเป้าขาย 26,000 ล้านบาท เดินหน้ารุกโครงการแนวราบ ปักหมุดทำเลแรกกับ “ศุภาลัย เออร์บานา เเจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด” ราคาเริ่มต้นสุดคุ้ม 3.49 ล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปี 2563 ว่า แม้ขณะนี้จะมีปัจจัยบวกในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนปรนเรื่องมาตรการ LTV อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงค่อนข้างมาก มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือรายการละ 0.01% แต่ความเสี่ยงในเรื่องเกิดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) จะมีผลกระทบฉุดเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกและรายได้จากการท่องเที่ยว
"แม้จะมีเรื่องโควิด-19 แต่บริษัทศุภาลัย ยังไม่ปรับลดเป้าการขายที่วางไว้ 26,000 ล้านบาท ซึ่งประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์มาจากโครงการแนวราบ โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะรุกการขายและเปิดโครงการแนวราบจำนวนมาก เพื่อรองรับการเติบโต อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่า ยอดลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จะลดลงประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ แต่คาดว่าในเดือนมีนาคมน่าจะปรับตัวดีขึ้นบ้าง เห็นได้จากยอดจองของบริษัทไม่ได้ลดลง"
สำหรับแนวโน้มตลาดโครงการแนวราบในโซนจังหวัดนนทบุรีนั้น ในส่วนของบริษัทศุภาลัยฯ มีที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 10 โครงการ ซึ่งยอดขายยังเป็นไปตามปกติ และไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากเรื่องโควิด-19
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่อย่าง “URBANA” ภายใต้ชื่อโครงการแรก "ศุภาลัย เออร์บานา เเจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด " ทาวน์โฮม 3 ชั้นรูปแบบใหม่ ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท จำนวน 118 แปลง มูลค่าโครงการ 460 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระหว่างอายุ 28-38 ปี มีอาชีพพนักงานบริษัท ระดับรายได้ 50,000-80,000 บาทต่อเดือน ตัวโครงการจะมีการออกแบบและเพิ่มพื้นที่ให้เหมาะสมกับกลุ่มอายุของลูกค้า กลุ่ม Gen Y ที่มีครอบครัวแล้วและกำลังมีครอบครัว ต้องการพื้นที่เพื่อรองรับสมาชิกในอนาคต และในปีนี้จะมีเปิดเพิ่มอีก 1 โครงการในพื้นที่โซนภาคตะวันออกของกรุงเทพฯ
โครงการ “ศุภาลัย เออร์บานา เเจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด” เปิดขายอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 28-วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้ พบกับสิทธิพิเศษมากมายภายในงาน ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 120,000* บาท
