ศาลรับ "หุ้นกู้เอิร์ธ" เป็นคดีผู้บริโภค ช่วยให้โจทก์ และสมาชิก รวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้การฟ้องแบบกลุ่ม จะได้รับเงื่อนไขและข้อเสนอที่เป็นธรรมมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา
รายงานข่าวจากศาลแพ่งกรุงเทพใต้แจ้งว่า เช้าวันนี้ (4 มีนาคม 2563) ศาลฯ ได้นัดฟังคำวินิจฉัยประธานศาลอุทธรณ์ ในคดีของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ หมายเลขดำที่ ผบ.๔๑๘/๒๕๖๒ ระหว่างโจทก์ คือ นายประสิทธิ์ สุวรรณวิทยา กับพวกรวม 3 คน และจำเลย คือ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) เพื่อฟังคำวินิจฉัยของศาล ว่าคดีนี้เป็นคดีผู้บริโภคหรือไม่ โดยมีประชาชนที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้และได้รับความเสียหายเดินทางไปร่วมฟังคำวินิจฉัยที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ กว่า 250 คน
ประธานศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยว่าเป็นคดีผู้บริโภค ซึ่งพิเคราะห์ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 3 (1) ถือว่าจำเลยเป็นผู้ให้บริการแก่โจทก์และสมาชิกกลุ่มซึ่งเป็นผู้ซื้อหุ้นกู้จากจำเลย และการถือหุ้นกู้เป็นวิธีการออมเงินของประชาชนประเภทหนึ่ง โดยมีผลตอบแทนทำนองเดียวกับการออมเงินประเภทอื่น และไม่ปรากฏว่าโจทก์หรือสมาชิกกลุ่มดำเนินการเพื่อผู้อื่นอีกต่อหนึ่งโดยได้ผลประโยชน์ตอบแทนหรือมีสิทธิในการเข้าไปดำเนินกิจการของจำเลย จึงถือว่าโจทก์และสมาชิกกลุ่มเป็นผู้รับบริการ เมื่อโจทก์และสมาชิกกลุ่มฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ในมูลไถ่ถอนหุ้นกู้และชำระดอกเบี้ย จึงเป็นคดีผู้บริโภค ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 3 (1) จึงวินิจฉัยว่าเป็นคดีผู้บริโภค
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ภายหลังจากการวินิจฉัยเป็นคดีผู้บริโภค กระบวนการต่อไปจะเป็นการประนีประนอมยอมความกันในชั้นศาล ซึ่งจะช่วยให้โจทก์ และสมาชิก รวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้การฟ้องแบบกลุ่มจะได้รับเงื่อนไขและข้อเสนอที่เป็นธรรมมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ มีการขอประนีประนอมยอมความแบบรายบุคคล และแบบกลุ่มก่อนหน้านี้ แต่หากโจทก์และจำเลยไม่สามารถตกลงในการประนีประนอมยอมความ การพิจารณาคดีก็จะดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็วกว่าการดำเนินคดีปกติทั่วไป