รมว.คลัง เผยภายในเดือน ก.พ.นี้ มาตรการดูแลเศรษฐกิจชุดใหม่จะได้ข้อสรุป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ในเดือน มี.ค.นี้ โดยจะยังเน้นดูแลภาคท่องเที่ยว-การบริโภคในประเทศ ย้ำมาตรการใดได้ข้อสรุปก่อนให้เสนอ ครม. ก่อนโดยไม่ต้องรอเสนอแบบเป็นแพกเกจ ส่วนการเบิกจ่ายงบลงทุนหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ คาดจะเริ่มดำเนินการได้ใน 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่งนับจากนี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินลงทุนใหม่สำหรับปีงบประมาณ 63 ราว 1 แสนล้านบาท ที่จะไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ภายในช่วงเดือน พ.ค.63
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ว่า ภายในเดือน ก.พ.นี้ กระทรวงการคลังจะสรุปชุดมาตรการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อนำใช้ในช่วงเดือน มี.ค.ที่จะถึง ทั้งนี้ มาตรการใดที่สามารถพิจารณารายละเอียดได้เสร็จก่อนจะถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอเสนอแบบเป็นแพกเกจ
สำหรับชุดมาตรการกระตุ้นใหม่นั้น จะเน้นถึงเรื่องการดูแลภาคการท่องเที่ยวตั้งแต่ผู้ประกอบการจนถึงลูกจ้างที่มีทั้งสิ้น 15 ล้านราย รวมถึงยังจะเน้นเรื่องการกระตุ้นการบริโภค เช่น โครงการชิมช้อปใช้ 4 การโอนเงินเข้าสู่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการสั่งการให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจเตรียมพร้อมเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบประมาณ 63 โดยคาดว่าการเบิกจ่ายจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่งนับจากนี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินลงทุนใหม่สำหรับปีประมาณ 63 ราว 1 แสนล้านบาทที่จะไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ภายในช่วงเดือน พ.ค.63
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า เม็ดเงินที่รัฐบาลจะใส่ไว้ในชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นี้ จะต้องมีขนาดใหญ่ และส่งผลต่อการดูแลเศรษฐกิจในช่วงนี้ โดยจะพิจารณาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการให้เงินเพื่อนำไปใช้จ่ายเพิ่มเติมในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การเพิ่มเงินให้กองทุนหมู่บ้าน การสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมบุคลากรภาคการท่องเที่ยว