หุ้นปิดเช้าบวก 4.31 จุด แกว่งแคบไร้ปัจจัยชี้นำ สภาพัฒน์ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ ขณะที่กลุ่มสื่อสารช่วยหนุนขานรับประมูล 5G แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดน่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จากหุ้นกลุ่มสื่อสารที่ยังนำตลาด การเก็งกำไรในหุ้นผลประกอบการดี และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งหากหุ้นกลุ่มใหญ่ๆ เริ่มยืนได้ ก็น่าจะทำให้ดัชนีฟื้นตัวดีขึ้น
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยชี้นำตลาด ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 63 ลงเหลือ 1.5-2.5% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.7-3.7% แต่ก็ไม่ได้กดดัน Sentiment การลงทุนมากนัก เพราะตลาดฯน่าจะรับรู้ปัจจัยต่างๆ ไปบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร หลังทราบผลการประมูลคลื่น 5G ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าลงทุนในหุ้น ADVANC, TRUE เป็นหลัก และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบโทรคมนาคมที่คาดว่าจะได้รับผลดีไปด้วย รวมถึงในหุ้นที่มีผลประกอบการดี อย่าง TASCO ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,530.61 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.28% มูลค่าซื้อขาย 26,024 ล้านบาท
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จากหุ้นกลุ่มสื่อสารที่ยังนำตลาด การเก็งกำไรในหุ้นผลประกอบการดี และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งหากหุ้นกลุ่มใหญ่ๆ เริ่มยืนได้ ก็น่าจะทำให้ดัชนีฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,525 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,535 จุด
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของหุ้น CRC ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ อาจมีการดึงเม็ดเงินจากหุ้นตัวอื่นเพื่อเตรียมเข้าลงทุนในหุ้นดังกล่าว และติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินยุบหรือไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 ก.พ.63 ที่อาจมีผลต่อเนื่องไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสัปดาห์หน้า
