ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 1.65 จุด อ่อนกว่าตลาดภูมิภาค โดยได้รับแรงถ่วงจากกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มสื่อสาร ที่มีแรงขายออกมามาก แต่หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มธนาคาร และส่งออกพวกอิเล็กทรอนิกส์ต่างปรับตัวขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 ตราขึ้น โดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ซึ่งหากจบได้เร็วก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 ก.พ.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,535.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.65 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 69,363.97 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,541.81 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,530.51 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแต่ไม่แรงเท่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่บวกได้เกือบ 2% หลังจากที่จีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้บวกราว 0.5% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกด้วย แสดงให้เห็นเม็ดเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนบ้านเราได้รับแรงถ่วงจากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มสื่อสาร ที่มีแรงขายออกมามาก แต่หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มธนาคาร และส่งออกพวกอิเล็กทรอนิกส์ต่างปรับตัวขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ตราขึ้น โดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ซึ่งหากจบได้เร็วก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 3,826.57 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 185.53 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,378.48 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,262.57 ล้านบาท