สยามกลการงัดแลนด์แบงก์พัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่ม ผุดอาคารสำนักงานติดหอศิลป์ กทม. สนามกอล์ฟ บางนา-ตราด กม.ณะที่ที่ดินแบงก์เล็กเตรียมศึกษาแผนการลงทุนแวร์เฮาส์ ที่อยู่อาศัย ล่าสุดเปิดให้บริการ “สยามคันทรีคลับ พัทยา โรลลิ่งฮิส์”
ดร.พรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้นำที่ดินสะสมออกพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยนำโชว์รูมนิสสันและอาคารจอดรถ ข้างหอศิลปและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพ ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัฟเวอรี เนื้อที่กว่า 4 ไร่ 3 งาน พัฒนาเป็นอาคารขนาดใหญ่สูง 33 ชั้นพื้นที่ก่อสร้างกว่า 90,000 ตร.ม. เป็นพื้นที่ใช้สอยหรือให้เช่า 55,000 ตร.ม. ซึ่งปัจจุบันโครงการผ่าน EIA แล้ว และอยู่ระหว่างทุบรื้ออาคารเก่าคาดว่าจะใช้เวลากว่าสร้างไม่น้อยกว่า 3 ปี งบลงทุนไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท อาคารแห่งนี้จะเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ค่าเช่าไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท/ตร.ม./เดือน นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีร้านอาหารและค้าปลีกขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจากอยู่ใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทั้งมาบุญครอง สยามและพารากอน
นอกจากนี้ยังได้นำที่ดินขนาด 560 ไร่ ด้านหลังโรงงานนิสสันบางนา กม.22 ถนนบางนา - ตราด พัฒนาเป็นสนามกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม ภายใต้ชื่อ “สยามคันทรีคลับ กรุงเทพ” โดยใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม ปี 2564 โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นนักธุกิจต่างชาติที่เดินทางมาทำธุรกิจในไทยรวมถึงนักกอล์ฟชาวไทย
“ที่ดินที่นำมาสร้างสนามกอล์ฟ สยามคันทรีคลับ กรุงเทพ เป็นที่ดินแปลงใหญ่แปลงสุดท้ายในกรุงเทพและปริมณฑล ที่เหลือเป็นแปลงขนาดเล็กอีกจำนวนหลายแปลง ซึ่งขณะนี้อยู่ศึกษาแผนลงทุนแวร์เฮ้าส์ และโครงการที่อยู่อาศัย โดยจะพิจารณาลงทุนตามศักยภาพของที่ดินแปลง หากไม่มีศักยภาพบริษัทจก็จะไม่นำมาพัฒนา” ดร.พรเทพ กล่าว
ล่าสุดบริษัทได้เปิดให้บริการสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ พัทยา โรลลิ่งฮิลส์ ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟ แห่งที่ 4 ภายในโครงการสยามคันทรีคลับ โดยโรลลิ่งฮิลส์ เป็นสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุ่ม 7,259 หลา, พาร์ 72 บนพื้นที่ 660 ไร่ ใช้เงินลงทุน 750 ล้านบาท มูลค่ารวมที่ดินจำนวน 2,730 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ปีละ 180 ล้านบาท และหากรวมสนามกอล์ฟ 4 สนามคตาะว่าปี 2563 บริษัทจะมีรายได้จากสนามกอล์ฟ 700 ล้านบาท
สำหรับ กลุ่มลูกค้าของ สยามคันทรีคลับ พัทยา โรลลิ่งฮิลส์ สนามกอล์ฟระดับโลก เราคาดว่ากลุ่มลูกค้าหลักจะมาจากนักกอล์ฟชาวเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลี หรือ กลุ่มบริษัทต่างๆ ในประเทศไทย ที่จัดกิจกรรมกอล์ฟรายการสำคัญ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านธุรกิจ รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าทางยุโรป-ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งอัตราการเติบโตของนักกอล์ฟ ทั้ง 3 สนาม ได้แก่ Old Course, Plantation และ Waterside ในปี 2563 คาดว่าจะมีนักกอล์ฟมาใช้บริการ 190,000 คน/ปี
“สนามกอล์ฟ สยามคันทรีคลับ สร้างรายได้ให้กับกลุ่มสยามกลการน้อยมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น แต่สยามคันทรีคลับเป็นภาพพจน์ที่ผมภูมิใจที่สุด ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นที่กล่าวถึงของนักกอล์ฟ” ดร.พรเทพ
