ยอดใช้จ่ายชิมช้อปใช้ปีใหม่พุ่งแตะ 2.7 หมื่นล้านบาท พรุ่งนี้ลุ้นอีกรอบรถกระบะคันที่ 2 พร้อมรางวัลอื่นๆ รวม 169 รางวัล
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ติดตามความคืบหน้าโครงการชิมช้อปใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนจำนวนมากเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในประเทศกันอย่างคึกคัก ส่งผลให้ยอดการจับจ่ายใช้สอยผ่านโครงการชิมช้อปใช้ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขล่าสุดวันที่ 1 มกราคม 2563 ยอดรวมทั้งสิ้น 26,981.9 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 1 จำนวน 11,650.9 ล้านบาท และ G-Wallet 2 จำนวน 15,330.9 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายร้านชิม 4,536.1 ล้านบาท ร้านช้อป 18,691.3 ล้านบาท ร้านใช้ 268.5 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 3,282.6 ล้านบาท และโรงแรม 153.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ตรงตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่วางไว้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (3 ม.ค.) ที่กระทรวงการคลังจะมีการจับรางวัลของสมนาคุณครั้งที่ 2 รวม 169 รางวัล รางวัลใหญ่สุดลุ้นรับรถกระบะ Toyota Hilux Revo 2 ประตู 1 คัน ซึ่งจะเป็นผู้ใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 2 ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-31 ธันวาคม 2562 และสำหรับรางวัลอื่นๆ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ฮอนด้า New PCX 150 จำนวน 4 คัน โทรทัศน์ดิจิทัล Samsung TV55 จำนวน 8 เครื่อง ทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 16 แท่ง และทองคำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 106 แท่ง จะเป็นผู้ใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 16-31 ธันวาคม 2562 และร้านค้ามีสิทธิลุ้นรับทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 4 แท่ง และทองคำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 30 แท่งด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ผู้ใช้จ่ายและร้านค้าสามารถตรวจสอบจำนวนวงเงินการใช้จ่าย จำนวนสิทธิที่จะได้เข้าร่วมลุ้นรับรางวัล หมายเลขสิทธิของตน และผลการจับรางวัลได้ที่ http://www.xn--b3caa1e2a7e2b0h2be.com/
“มาร่วมลุ้นกันว่าใครจะเป็นผู้โชคดีรับปีหนู 2563 ที่สามารถคว้ารางวัลรถกระบะคันที่ 2 ไปครอง และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนจับจ่ายใช้สอยผ่าน G-Wallet 2 อย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้ เพื่อรับเงินคืน 15-20% อีกทั้งยังมีโอกาสลุ้นรับของสมนาคุณอีกมากมาย การจับรางวัลยังจะมีอีก 4 ครั้ง คือ วันที่ 10, 17, 24 มกราคม และ 3 กุมภาพันธ์ 2563 และรางวัลใหญ่สุด รถยนต์ Toyota Altis มูลค่ากว่า 800,000 บาท” นายชาญกฤช กล่าว