หุ้นปิดเช้าบวก 4.33 จุด คาดเป็นการแค่เทคนิเคิลรีบาวด์หลังร่วงแรง แต่ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะยังได้รับแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีปรับตัวขึ้นได้เป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากร่วงแรงวานนี้ แต่ตลาดก็ยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ และเศรษฐกิจไทยที่เติบโตในระดับต่ำ โดยหลายสำนักวิจัยของแบงก์ต่างก็ประเมิน GDP ของไทยในปี 63 จะเติบโตแค่ 2.6-2.8% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ และพอมีการชุมนุมในวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เหมือนเป็นการซ้ำเติม อีกทั้งสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดระยะยาวตามเทศกาลแล้ว ด้วยปัจจัยดังกล่าวนี้ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายออกมามากเป็นพิเศษในสัปดาห์นี้ ดังนั้น จึงมองว่าช่วงนี้ตลาดคงจะปรับตัวขึ้นได้ยาก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวในแดนบวก บางตลาดที่ติดลบก็เพียงเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่จะยังขานรับเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ตกลงกันได้ในเฟสแรก
สำหรับบ้านเรายังรอดูว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย.ว่าจะยังชะลอตัวต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ต.ค.ชะลอตัว
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,554.07 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.28% มูลค่าการซื้อขาย 33,238.99 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดคงจะยังได้รับแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด