"ชาญกฤช เดชวิทักษ์" เผยนักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวเย็นตามสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะภาคเหนือคึกคัก ดันยอดการใช้จ่ายผ่านโครงการ “ชิมช้อปใช้” พุ่งทะลุ 2 หมื่นล้านบาท โดยยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 มีสูงถึง 8,895 ล้านบาท ย้ำคลังพร้อมจ่าย Cash Back รอบแรก 15 ธ.ค.นี้ ด้าน "รมว.คลัง" สั่งติดตามบรรดาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่างใกล้ชิด หวังป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงยอดการใช้จ่ายรวมตามโครงการชิมช้อปใช้ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-8 ธ.ค.62 ว่า มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 20,523 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดจากกระเป๋า 1 จำนวน 11,628 ล้านบาท และจากกระเป๋า 2 จำนวน 8,895 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าการใช้จ่ายผ่านร้านชิมจะมีทั้งสิ้น 3,126.5 ล้านบาท ร้านช้อป 13,815.2 ล้านบาท ร้านใช้ 214.5 ล้านบาท รวมถึงร้านค้าทั่วไป จำนวน 3,274.9 ล้านบาท และโรงแรมอีก 69.1 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังย้ำด้วยว่า กรมบัญชีกลางพร้อมจ่ายเงินคืน (Cash Back) เข้ากระเป๋า G-wallet 2 สำหรับผู้ใช้สิทธิที่ได้ใช้จ่ายเงินจากกระเป๋า G-Wallet 2 ไปแล้ว ซึ่งมีกำหนดจะได้รับเงินคืน (Cash Back) คือ งวดแรกในวันที่ 15 ธ.ค.62 ซึ่งจะเป็นรอบของผู้ที่ใช้จ่ายระหว่างวันที่ 27 ก.ย.-30 พ.ย.62 งวดสอง วันที่ 15 ม.ค.63 เป็นรอบของผู้ที่ใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค.62 และงวดสาม วันที่ 15 ก.พ.63 เป็นรอบของผู้ที่ใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1-31 ม.ค.63
ทั้งนี้ เงื่อนไขการได้รับเงินคืน (Cash Back) คือ 15% สำหรับการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท และ 20% สำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่ 30,001 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 50,000 บาท รวมรับเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 8,500 บาท โดยผู้ใช้สิทธิสามารถตรวจสอบยอดเงินคืนของตนเองได้ที่แอปเป๋าตัง ซึ่งสามารถโอนเงินคืนกลับเข้าบัญชีของตนเองผ่าน Internet Banking ได้ทันที
นายชาญเดช ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีสภาพอากาศลดต่ำลง ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมีประชาชนพากันเดินทางไปท่องเที่ยวจนแน่นขนัด ส่งผลให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะตามยอดดอยต่างๆ ทางภาคเหนือ เช่น บริเวณยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อุณหภูมิติดลบ 1 องศาเซลเซียส มีเหมยขาบหรือแม่คะนิ้งเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ ทั้งดอกไม้ ใบหญ้า ไม่เว้นแม้แต่เก้าอี้ไม้ที่ใช้สำหรับนั่งพักผ่อน ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ต่างพากันออกมาถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนั้น มีทั้งแบบไปกลับ และพักค้างแรม ส่งผลให้ที่พักมีการจองคิวเต็มแน่นไปจนถึงปี 2563
ทั้งนี้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้มอบหมายให้นายชาญเดช ติดตามบรรดาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค เช่น การปรับขึ้นราคาที่พักหรือราคาอาหาร เนื่องจากจะเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว ซึ่งตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มโครงการ ก็ได้พยายามลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยและเชิญชวนให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง