xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นเผชิญ Sentiment ลบจากเจรจาการค้าไม่ชัดเจน และคดี STEC กดดัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดร่วง 11.06 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังเผชิญ Sentiment ลบจากเจรจาการค้าไม่ชัดเจน และคดี STEC กดดัน แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดคงจะแกว่งตัว แนะติดตามงาน SET in the city ซึ่งน่าจะช่วยหนุนตลาดฯ

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างติดลบเฉลี่ย 0.4% เช่นเดียวกับตลาดยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบเฉลี่ย 0.3% หลังจากเผชิญ Sentiment ลบจากความไม่ชัดเจนการเจรจาการค้าสหรัฐและจีนที่ยังต้องติดตามดูพัฒนาการต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าน่าจะตกลงกันได้ เพียงแต่อาจจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากหุ้น บมจ.ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนต์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ภายหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขี้มูลความผิด STEC และผู้บริหารระดับสูง 2 รายเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจ่ายสินบนท่าเรือโรงไฟฟ้าขนอม

อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามประเด็นการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนบ้านเราให้ติดตามช่วงโค้งสุดท้ายของการทยอยประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และปลายสัปดาห์ยังต้องติดตามงาน SET in the city ซึ่งน่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,615.14 จุด ลดลง 11.06 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.68% มูลค่าการซื้อขาย 52,455.95 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,712.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 227.86 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 557.95 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,381.93 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,627-1,635 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น