"ชาญกฤช เดชวิทักษ์" เผย คลัง-ธอส. 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ เตรียมเปิดตัวแคมเปญกระตุ้นยอดขายบ้านที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทในวันที่ 11 พ.ย.นี้ กำหนดให้ผู้ประกอบการเริ่มเข้าลงทะเบียนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการนี้กับ ธอส. ได้ในวันที่ 8 พ.ย. นี้ เพื่อรับแผ่นป้ายโปรโมชั่นที่ใช้ติดหน้าโครงการให้ประชาชนรับทราบ ทั้งยังขอให้พิจารณาลดราคาบ้านที่มีเกินกว่า 3 ล้านบาท หวังให้เข้าเกณฑ์ส่งเสริมการขาย และเพื่อให้ผู้ซื้อบ้านยังได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ล่าสุดจากรัฐบาลด้วย
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ โค้งสุดท้ายของปี ร่วมกับ 3 สมาคม ซึ่งได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทยว่า ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ กระทรวงการคลัง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.) และ 3 สมาคมภาคอสังหาฯ จะเริ่มออกแคมเปญ 11.11 ลด แลก แจก แถมครั้งใหญ่สำหรับที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 35,000 ยูนิต เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายและการโอนอสังหาฯ ในปท 62 ตามมาตรการการให้สินเชื่อผ่อนปรนจาก ธ.อ.ส. วงเงิน 50,000 ล้านบาท รวมถึงมาตรการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองและการโอนอสังหาฯ ลงเหลือรายการละ 0.01%
ทั้งนี้ ในวันที่ 8 พ.ย. 62 กระทรวงการคลังและอีก 4 หน่วยงาน จะได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการโปรโมชั่นดังกล่าว โดยจากนั้นจะเปิดให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั่วประเทศ สามารถเข้ามาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการกับ ธอส. ได้ทุกสาขาทั่วประเทศด้วย โดยผู้ประกอบการจะได้รับแผ่นป้ายโปรโมชั่นเพื่อนำไปโปรโมตที่หน้าโครงการให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายชาญกฤช ยังระบุว่า ตนได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้พิจารณาปรับราคาขายบ้านที่มีราคาเกินกว่า 3 ล้านบาท เช่น บ้านที่มีราคาขาย 3.5-4 ล้านบาท ให้ลงมาเหลือ 3 ล้านบาท เพื่อทำให้ราคาบ้านในกลุ่มดังกล่าวเข้าเกณฑ์การส่งเสริมการขาย และเพื่อให้ผู้ซื้อบ้านยังได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดจากรัฐบาลด้วย
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าภาคอสังหาฯ ในปี 63 จะขยายตัวได้ราว 5-7% เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่องจากปี 62 ในขณะเดียวกันนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้มอบหมายให้ศึกษาถึงแนวทางในการกระตุ้นการซื้อขายอสังหาฯ มือ 2 เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกันกับภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้านผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลถึงมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงอยู่ระหว่างศึกษามาตรการอื่นเพิ่มเติม เพื่อดูแลผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ได้รับผลกระทบจาก LTV ในปี 63 ต่อไป