หุ้นปิดเช้าบวก 5.11 จุด ตามตลาดต่างประเทศ ขานรับเจรจาการค้าคืบหน้าดี อียูเลื่อนเส้นตาย Brexit แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,595-1,605 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งในแดนบวก ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า แต่ระหว่างทางตลาดภูมิภาคก็มีเคลื่อนไหวในแดนลบบางตลาด ซึ่งตลาดบ้านเรามองเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวนด์มากกว่าหลังจากที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ในระหว่างทางก็เผชิญแรงขายออกมาด้วย ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,962.68 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท ลดลง 4.50 บาท
ทั้งนี้ ตลาดฯ มีปัจจัยบวกจากต่างประเทศ ทั้งเรื่องเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ดูดีขึ้น หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณจะลงนามข้อตกลงได้ก่อนการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเดือนหน้า และทางสหภาพยุโรป (อียู) ก็เลื่อนเส้นตายของการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ออกไปเป็น 31 ม.ค. 63
แต่ตลาดบ้านเรายังเผชิญแรงถ่วงจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/62 บางบริษัทไม่ค่อยดี อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ ซึ่งตลาดให้น้ำหนักถึง 96% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ต.ค.นี้ รวมถึงติดตามการทยอยประกาศงบฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,601.59 จุด เพิ่มขึ้น 5.11 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 27,091.18 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.จิตรากล่าวว่า ตลาดฯ คงจะยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,595-1,605 จุด