แบงก์ออมสินเผยผลสำรวจ GSI ไตรมาส 3 ของปีนี้อยู่ที่ 44.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา และในอีก 6 เดือนข้างหน้ายังจะขยับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 45.9 จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวที่ทำให้ประชาชนทั่วไปจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น อีกทั้งมาตรการภาครัฐที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI) ประจำไตรมาส 3 ปี 2562 ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ทั่วประเทศ จำนวน 2,186 ตัวอย่างนั้น จะอยู่ที่ระดับ 44.9 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2562 ที่อยู่ระดับ 42.4
ทั้งนี้ เนื่องจากประชาชนฐานรากมีการปรับตัวให้สอดรับต่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และมีปัจจัยบวกจากผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยทั้งในภาคเกษตรกรรม และนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย สำหรับระดับ GSI ในอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 45.9 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 43.3 เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะทำให้ประชาชนทั่วไปมีการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น อีกทั้งมาตรการภาครัฐที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ เทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ด้านความสามารถในการชำระหนี้สิน การออม การหารายได้ โอกาสในการหางานทำ และภาวะเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า มีเพียงด้านการจับจ่ายใช้สอยที่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยฯ มองว่าในไตรมาสหน้าดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากจะปรับสูงขึ้น เนื่องจากแนวโน้มสถานการณ์ด้านปริมาณผลผลิต/ราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญมีทิศทางดีขึ้น ประกอบกับผลจากนโยบายและมาตรการภาครัฐต่างๆ ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการลดค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการชิมช้อปใช้ เฟส 1 และคาดว่าจะมีเฟส 2 ออกมาในระยะต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกระจายไปสู่ภูมิภาคเพิ่มขึ้น