“เรียลแอสเสท” เผยแผนลงทุนปี 63 เปิดบ้าน-คอนโดฯ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 5.5 พันล้านบาท พร้อมปรับแผนรับมืออสังหาฯ ชะลอตัวต่อเนื่องถึงปี 63 หันลงทุนโครงการระดับกลาง-ล่าง ราคาตอบโจทย์ลูกค้า ทำเลรอบรอก CBD
นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ชะลอตัวจากปี 2561 ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะมีโครงการเปิดใหม่ประมาณ 50,000-55,000 ยูนิต จากที่ผ่านมาเปิดตัวปีละ 60,000-70,000 ยูนิต สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความระมัดระวังในการลงทุน ลดจำนวนโครงการที่จะพัฒนาลงเพื่อให้เหมาะสมต่อกำลังซื้อ และเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับแผนการลงทุนเพื่อรองรับต่ิภาวชะลอตัวของตลาดอสังหาฯ จากเดิมที่ประกาศบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยหันมาพัฒนาด้วยความระมัดระวัง แบบค่อยเป็นค่อยไป สิ่งสำคัญคือการเลือกโปรดักต์ และตั้งราคาให้เหมาะสมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
“การลงทุนในปัจจุบันจะทำเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เช่น โครงการหรูต้องมีจุดขายที่โดดเด่น ตลาดกลาง-ล่างต้องคุ้มค่าคุ้มราคา ทุกวันนี้ต้องมีอะไรที่มากกว่า ต้องศึกษาตลาดให้มาก ราคาต้องแม่นจริงๆ ทำเลดีอย่างเดียวไม่ได้ต้องใกล้ชุมชน ใกล้แหล่งงาน เดินทางสะดวก” นายบดินทร์ธร กล่าว
สำหรับในปี 2563 บริษัทมีแผนเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 5,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 3 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ และในเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการ เซนส์ บางนา-สุวรรณภูมิ บนเนื้อที่ 25 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝด-ทาวน์เฮาส์ จำนวน 160 ยูนิต ราคา 3.55-5.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท สำหรับในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 1,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับโปรดักต์ให้มีขนาดเล็กลง ตั้งราคาขายถูกลง เพิ่มพื้นที่หรือฟังก์ชันที่จำเป็น เช่น โครงการบ้านแฝด-ทาวน์เฮาส์ รังสิตคลอง 5 เดิมจะขายในราคา 2.5-3 ล้านบาท/ยูนิต บริษัทได้ปรับมาเป็นราคา 1.5-2 ล้านบาทแทน เพื่อให้เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ อยู่ในทำเลห้วยขวางห่าง MRT ห้วยขวางเพียง 300 เมตร ใช้แบรนด์ เดอะสเตท ราคาเริ่มต้น 1 แสนบาทบวกลบ มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยโครงการนี้อาจพัฒนาในรูปแบบร่วมทุนกับกลุ่มทุนสัญชาติญี่ปุ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ หากผลการเจรจาไม่สำเร็จบริษัทก็พร้อมที่จะลงทุนเอง
นายบดินทร์ธร กล่าวต่อว่า การเลือกที่จะร่วมทุนกับกลุ่มทุนชาวญี่ปุ่นเนื่องจากบริษัทต้องการเรียนรู้วิธีการทำงาน การตรวจงาน โนว์ฮาวด้านการก่อสร้าง รวมถึงเม็ดเงินลงทุน เพื่อเรียนรู้และนำมาปรับใช้กับบริษัทเพื่อให้สามารถเติบโตไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี
ส่วนคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า ความเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่สิ้นสุดลง ซึ่งเป็นพี่ชายนั้น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ล่าสุด เปิดตัวโครงการลาวีค สุขุมวิท 57 เป็นคอนโดซูเปอร์ลักชัวรีโครงการแรกของบริษัทฯ บนถนนสุขุมวิท 57 บนเนื้อที่โครงการกว่า 2 ไร่ พัฒนาขึ้นเป็นอาคารสูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 235 ยูนิต มูลค่า 4,070 ล้านบาท มีขนาดห้องตั้งแต่ 42-357 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 10.9 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ย 260,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาปรับขึ้นจากช่วงเปิดตัวในปี 2559 ราคาเริ่มต้น 240,000 บาท/ตร.ม.
ปัจจุบัน โครงการลาวีค สุขุมวิท 57 สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบ และมียอดขายมากกว่า 80% พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พื้นที่ส่วนกลางของ LAVIQ Sukhumvit 57 ถูกออกแบบอย่างหรูหรา ทันสมัย สะท้อนไลฟ์สไตล์ของลูกค้าผู้พักอาศัย ตั้งแต่การออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมของชั้น G เป็นลักษณะสวนปิดล้อมพื้นที่ด้วยเนินธรรมชาติเพื่อความร่มรื่นและเป็นส่วนตัว ดีไซน์ให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องสมุดอันโอ่อ่าและตระการตากับล็อบบี้ตกแต่งสุดหรูด้วยเปียโนสีขาวคลาสสิก (Ivory Piano Bar) ซึ่งเป็น Signature ของ FENDI CASA เฟอร์นิเจอร์สุดลักชัวรี มาประดับตกแต่งล็อบบี้ของโครงการ ใช้ชีวิตหรูหรายิ่งขึ้นบนย่านไลฟ์สไตล์ใจกลางเมืองที่เหนือกาลเวลา และการกลับมาภายใต้แนวคิด “GLAMOROUSLY INSPIRED BY FENDI CASA” จากเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกตกแต่งเพิ่มในชั้น 29 และ 30
ส่วนบนชั้น 29 ได้แรงบันดาลใจจากงานแฟชั่นโชว์ของ FENDI ในรูปแบบบันไดวนเหนือสระว่ายน้ำที่เชื่อมการใช้งานระหว่างชั้น ครบครันด้วยจากุชชี และกำแพงปีนหน้าผาจำลองสำหรับเด็กโดยเฉพาะ รวมถึงโซเชียลคลับที่ออกแบบพื้นที่แบบเปิดโล่งเชื่อมต่อภายใน ภายนอก และพื้นที่ Sky Deck ไว้สำหรับจัดงานเลี้ยงสุดเอ็กซ์คลูซีฟในการใช้ชีวิตเพลิดเพลินด้วยความสะดวกสบายล้ำเลิศที่สะท้อนความโก้หรูบนชั้น 30 ทั้งสตูดิโอฟิตเนส ปั่นจักรยาน ห้องโยคะ เอ็กเซกคลูทีฟ เลานจ์ ห้อง Golf Simulator
นอกจากนี้ ทางโครงการยังเพิ่มบริการเหนือระดับให้แก่ผู้พักอาศัย ด้วยบริการนำส่งไปรษณีย์ถึงหน้าห้องพัก บริการพนักงานต้อนรับและดูแลความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยตลอด 24 ชั่วโมง ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยสมบูรณ์แบบด้วยประตูล็อกดิจิทัล วิดีโอโฟน กล้องวงจรปิด CCTV และพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการเดินทางคืออีกจุดเด่นของโครงการ LAVIQ Sukhumvit 57 ที่สะดวกสบายบนทำเลศักยภาพใจลางเมืองสุขุมวิท 57 ซึ่งปัจจุบันสถานีบีทีเอสทองหล่อได้มีการก่อสร้างทางเดินสกายวอล์ก (Sky Walk) เพิ่มเติมเชื่อมต่อการเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งทางเดินสกายวอล์กจะมีทางขึ้นอยู่ที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 57 โดยมีระยะห่างจากโครงการเพียง 100 เมตร โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2562 และทางขึ้นลงอีกฝั่งหนึ่งจะอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 40 เชื่อมกับอาคาร T-ONE ที่เปิดให้บริการแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทพร้อมเปิดให้ชมโครงการในงาน Grand Open House ในวันที่ 9-10 พฤศจิกายนนี้ สัมผัสบรรยากาศพร้อมรับชมวิวเมืองบนทำเลสุขุมวิท 57 สะท้อนตัวตนด้วยประสบการณ์ของความเป็นที่สุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ 1 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท และ 2 ห้องนอน ขนาด 79 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท
