ตั้งแต่ประเดิมเคาะซื้อขายวันแรก (10 ต.ค.) ราคาหุ้นบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละ 5 สตางค์บ้าง 10 สตางค์บ้าง และ 15 สตางค์บ้าง และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พุ่งทะยานอย่างร้อนแรงถึง 35 สตางค์
เพราะมีแรงซื้อโหมเข้ามาในรายการซื้อขายสุดท้ายกว่า 242 ล้านหุ้น กระชากราคาขยับ 3 ช่วง ก่อนปิดที่ 6.80 บาท
รายการซื้อไม้สุดท้ายก่อนปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี ไม่รู้มาจากไหน ใครเป็นผู้ซื้อ และเป็นรายการซื้อขายที่นักลงทุนตั้งข้อสงสัยไว้มากมาย
ทำไมต้องไล่ซื้อก่อนปิดตลาด มีวัตถุประสงค์ใดในการลากราคา
AWC ซื้อขายวันแรกแทบจะไม่รอด เพราะเปิดที่ราคา 6 บาท เท่ากับราคาจอง และแทบทั้งวัน ตั้งซื้อตั้งขายกันที่ 6 บาท และ 6.05 บาทเท่านั้น โดยมีการเคาะซื้อที่ 6.10 บาทเพียงชั่วขณะ
ในช่วงเปิดเสนอขายหุ้น บริษัทอันเดอร์ไรเตอร์ หรือผู้จัดจำหน่ายบางแห่งต้องบอกบุญนักลงทุน เรียกให้จองซื้อ เพราะมีหุ้นเหลือขาย และเป็นเหตุผลที่ราคาที่ซื้อขายบนกระดานในวันแรกไม่คึกคัก
ราคา 6.05 บาท ในวันแรกที่เข้าตลาดหุ้น ใครจะซื้อเท่าไหร่ เคาะได้แทบตลอดเวลา เพราะนักลงทุนตั้งขายคิวยาวเหยียด
แต่วันต่อมา จึงมีนักลงทุนทยอยเข้ามาไล่เก็บ ทำให้ราคาขยับขึ้นทุกวัน โดยบวกสะสมจนขยับขึ้นมาที่ 6.80 บาท สูงกว่าจองแล้ว 80 สตางค์ หรือกว่า 13% และกลายเป็นหุ้นน้องใหม่อีกตัวในปีนี้ที่สร้างผลตอบแทนที่ดี
แรงซื้อที่ไหลเข้ามาขับเคลื่อนราคาหุ้น AWC น่าจะเกิดจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ เพราะนักลงทุนรายย่อยไม่กล้าที่จะลุยราคา เพราะราคาจอง 6 บาท ถือว่าสูงเต็มกลืน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าแพง และไม่เปิดช่องว่างในการเก็งกำไร
นักลงทุนรายย่อยอาจทยอยขายทำกำไรตั้งแต่วันแรก ขณะที่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศอาจทยอย
GIC PRIVATE LIMITED ของสิงคโปร์ เพิ่งรายงานการได้มาซึ่งหุ้น AWC โดยเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ในสัดส่วน 7.41% ของทุนจดทะเบียน และก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก คือ กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ถือหุ้นรวมกันประมาณ 74% ของทุนจดทะเบียน อันดับ 4 ถือโดยเมอร์ริลลินซ์ สิงคโปร์ และในสัดส่วน 7.76% ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยมีจำนวน 16,844 ราย
ราคาหุ้น AWC ที่พุ่งขึ้นมายืนในระดับ 6.80 บาท ถือว่ามาไกลมาก และเป็นราคาที่เกินความคาดหมายของฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ซึ่งประเมินราคาเป้าหมายต่ำกว่า 6.80 บาท
และราคาที่ขยับแรงเกินกว่าราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ น่าจะทำให้นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ถอดใจ ไม่กล้าตามแห่เข้ามาลุย AWC ส่วนนักลงทุนที่ได้โควตาจอง น่าจะเทขายทำกำไรมาตลอดทาง
ปล่อยให้นักลงทุนสถาบัน สถาบันต่างชาติเข้ามาลุย ขณะนักลงทุนสถาบันในประเทศน่าจะมีหุ้นในพอร์ตเพียงพอต่อความต้องการแล้ว และราคาบนกระดานก็ดีดตัวขึ้นมาสูง จนกองทุนในประเทศไม่น่าจะซื้อเพิ่ม
เข้ามาซื้อขาย 5 วันทำการ AWC ทำให้เงินนักลงทุนที่จองซื้องอกเงยขึ้นทุกวัน รวมๆ กันงอกเงยแล้ว 80 สตางค์ หรือขยับขึ้นมากว่า 13% โดยนักลงทุนที่ยังไม่ขายมีความสุขกับกำไรที่เติบโตขึ้นทุกวัน
แต่ราคาระดับ 6.80 บาท เป็นราคาที่ซื้ออนาคตอันยาวไกลมาก เพราะค่า พี/อี เรโช AWC พุ่งขึ้นไประดับ 300 เท่า และถ้าจะดึงให้ค่า พี/อี เรโช ลงมาในระดับเดียวกับหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตัวอื่นๆ
AWC จะต้องมีผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดดหลายปีติดต่อ แต่ AWC จะทำได้หรือ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำสุดขีด
นักลงทุนสถาบันต่างชาติที่แห่เข้ามาไล่เก็บหุ้น อาจเชื่อมั่นในอนาคต AWC แม้ราคาแพงลิบลิ่วจึงยังสู้ เข้ามาช้อนเก็บ
แต่ราคานี้ นักลงทุนรายย่อยในประเทศคงถอย และใครที่ยังมีหุ้นในมืออาจกำลังทยอยขายอยู่ เพราะราคาจูงใจให้ขายทำกำไรจริงๆ
