นักลงทุนจำนวนกว่า 45,000 รายที่ถือหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือปูนใหญ่ (SCC) กำลังระส่ำระสาย ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรกับหุ้นขนาดใหญ่ปัจจัยพื้นฐานดีตัวนี้ เพราะราคาหุ้นทรุดหนักอย่างน่าใจหาย
ช่วงต้นปี SCC เคยพุ่งขึ้นไปยืนอยู่ที่ 490 บาท แต่หลังจากนั้นปักหัวลงอย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือน ก่อนสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 6 ปีที่ 369 บาท เมื่อวันพุธที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา
SCC เป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศต้องซื้อไว้ในพอร์ต ราคาหุ้นเคลื่อนไหวไม่หวือหวา ขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ ตามภาวะตลาดหุ้น มีเพียงรอบปีนี้เท่านั้นที่ทรุดหนัก และเป็นรอบขาลงเต็มตัว
ต้นเหตุของความผันผวน เกิดจากผลประกอบการที่ชะลอตัวหลายปีติดต่อ ทำให้นักลงทุนสถาบันทยอยขายหุ้นออก
ปี 2559 SCC มีกำไรสุทธิ 56,084.19 ล้านบาท ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 55,041.25 ล้านบาท ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 44,748.34 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 18,705.55 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24,807.62 ล้านบาท
รายได้จากธุรกิจปิโตรเคมีที่ตกต่ำ เป็นตัวฉุดให้ผลประกอบการของ SCC วูบลง และทำให้จ่ายเงินปันผลลดลง ราคาหุ้นจึงปรับฐานตาม
ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่า SCC จะถูกถล่มจนจมดิน ราคาลงลึกเกินกว่าใครจะคาดคิด และไม่รู้ว่า จุดต่ำสุดจะอยู่ระดับใด
เพราะแนวโน้มผลประกอบการอาจชะลอตัวต่อ นักลงทุนจึงไม่กล้าผลีผลามเข้ามาช้อนเก็บ แม้ราคาหุ้นจะลงมาในระดับที่จูงใจก็ตาม
อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นหรือค่า พี/อี เรโชหุ้น SCC ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 11 เท่าเศษ อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 4.81 เท่า โดยจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง หรือทุกรอบผลดำเนินงานงวด 6 เดือน แต่กำไรสุทธิที่ลดลง ทำให้รอบ 12 เดือนที่ผ่านมา จ่ายเงินปันผลน้อยลง
SCC ถูกจัดเป็นหุ้นยอดนิยมในหมู่นักลงทุนระยะยาว ซึ่งถือไว้เพื่อกินเงินปันผล เพราะรับผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินกินดอกเบี้ย
แต่ราคาที่ร่วงลงมาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ ทำให้ผู้ถือหุ้นจำนวนเกือบครึ่งแสนรายนั่งไม่ติด เพราะแม้ตั้งใจซื้อเพื่อการถือยาว แต่ราคาที่ไหลลงไม่หยุด ทำให้สูญเสียความมั่นใจ และเกิดความลังเลว่า ควรจะตัดขายขาดทุนออกไปก่อนหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์หุ้นขาลง
อย่างไรก็ตาม มีนักลงทุนอีกจำนวนไม่น้อย กำลังเฝ้ารอจังหวะ เพื่อช้อนเก็บ SCC อยู่ เพราะราคาระดับนี้ไม่ได้เห็นบ่อย จึงเป็นโอกาสซื้อของถูก
เพียงแต่ต้องการความมั่นใจว่า ปรับฐานจนสะเด็ดน้ำ ราคาลงมาในระดับต่ำสุด ซึมซับรับความคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการหมดแล้วเท่านั้น
ประมาณวันที่ 28 ตุลาคมนี้ SCC จะแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ซึ่งคาดว่า ผลประกอบการคงชะลอตัว แต่สิ่งที่นักลงทุนรอดูคือ ราคาหุ้นจะสะท้อนรับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 อย่างไร
เพราะถ้ามีสัญญาณว่า ราคาหุ้นปรับฐานลงเสร็จสิ้น ทรุดลงมายืนในระดับต่ำสุด แรงขายจากนักลงทุนสถาบันแผ่วลง แรงซื้อคงทยอยไหลกลับเข้ามา
การปรับฐานรอบใหญ่ของ SCC น่าจะใกล้จบ และแม้ยังมีความเสี่ยงในการทรุดตัวลงต่อ แต่ระดับความเสี่ยงต่ำแล้ว
เพดานขาลงของหุ้นขนาดใหญ่ ปัจจัยพื้นฐานดีตัวนี้ น่าจะจำกัดในกรอบแคบ จะลงอีกคงไม่เท่าไหร่ นักลงทุนระยะยาวอาจกำลังหาจังหวะเก็บสะสมอยู่
