ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 18.50 จุด ขานรับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานภายหลังจากที่ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สช่วงบ่ายนี้ได้ปรับตัวขึ้นราว 2% สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดคงจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงต้นสัปดาห์ แต่ช่วงปลายสัปดาห์ตลาดมีโอกาสย่อตัวลง จากความวิตกผลประกอบการของ บจ. ที่คาดว่าจะออกมาไม่ดีนัก
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 ต.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,626.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.15% มูลค่าการซื้อขาย 61,609.96 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,627.26 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,613.08 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี ขานรับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานภายหลังจากที่ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สช่วงบ่ายนี้ได้ปรับตัวขึ้นราว 2% จากเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านวันนี้ด้วยขีปนาวุธ ซึ่งกระแสข่าวลือว่าเป็นฝีมือซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้เกิดความกังวลความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ตลาดฯก็ได้ตอบรับสัญญาณบวกในช่วงเช้าไปแล้ว ขณะนี้ยังต้องรอติดตามว่าผลจะออกมาอย่างไร หากเจรจากันได้ก็จะเป็นบวก แต่ถ้าไม่ใช่ก็เชื่อว่าตลาดฯก็คงร่วง อย่งไรก็ดี หากเจรจาแล้วตกลงกันได้ก็มองว่าเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าให้ติดตามตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของจีนงวดไตรมาส 3/62 ที่ตลาดฯคาดไว้ที่ 6.1% ลดลงจากไตรมาส 2/62 ที่เติบโต 6.2% ส่วนบ้านเราติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 และการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/62 ของกลุ่มแบงก์ เช่นเดียวกับสหรัฐฯที่จะทยอยประกาศผลประกอบการเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน จะออกมาเป็นบวก แต่เมื่อตลาดฯปรับตัวขึ้นไปก็คงจะเป็นแค่ช่วงสั้น เพราะทิศทางภาพรวมยังเป็นขาลงจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/62 ที่ยังไม่สนับสนุน และยังต้องรอดูความชัดเจนจากหลายปัจจัยด้วย
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงต้นสัปดาห์ แต่ช่วงปลายสัปดาห์ตลาดฯมีโอกาสย่อตัวลง จากความวิตกผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่คาดว่าจะออกมาไม่ดีนัก พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 -1,660 จุด
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 5,545.49 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,743.92 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 214.99 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 4,016.56 ล้านบาท