"อธิบดีธนารักษ์ใหม่" ย้ำ พร้อมสานต่อโครงการเดิมของกรมธนารักษ์ ระบุแผนสร้างรายได้ปี 63 จะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เตรียมตั้งศูนย์ข้อมูลติดตามการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์คนใหม่ ได้กล่าวมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกรมธนารักษ์ว่า ให้เดินหน้าสานต่อแผนงานเดิมเพื่อรองรับนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการประชารัฐสร้างไทย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและพัฒนาโครงการหลายด้านเกี่ยวกับการดูแลประชาชนรายย่อย รวมถึงการจัดสรรพื้นที่เหมาะสมจัดทำตลาดชุมชนในต่างจังหวัด หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำที่ดินมาพัฒนาทั้งศูนย์กระจายสินค้า ตลาดชุมชน จัดศูนย์ประชุม เพื่อนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ การจัดสรรที่ราชพัสดุให้เกษตรกรได้ประกอบอาชีพ
นอกจากนี้ ยังให้มีการศึกษาแผนนำทรัพย์สินต่างจังหวัดมาฟื้นฟูและพัฒนาตามความต้องการชุมชน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง เนื่องจากต่างชาตินิยมท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติมากขึ้น และพร้อมสานต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้มีความคืบหน้า ส่วนการผลักดันให้แผนการลงทุนประสบผลสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น กรมธนารักษ์ต้องหารือกับส่วนราชการที่ครอบครองเพื่อนำที่ราชพัสดุกลับมาพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการจัดสรรที่ดินเพื่อทำให้การครอบครองมีความถูกต้องและเกิดการพัฒนาความเจริญในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมธนารักษ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการสร้างรายได้ในปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อสำรวจพื้นที่ตกหล่นในการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากที่ราชพัสดุ ด้วยการเปิดศูนย์ข้อมูลติดตามการใช้ประโยชน์ เช่น สนามกอลฟ์บางพระ ร้านกาแฟตามแหล่งท่องเที่ยว และอาคารเก่าปรับปรุงใหม่ทันสมัย
ด้าน นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ได้กล่าวฝากเรื่องการสานต่อโครงการลงทุนเดิม โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างอาคารขนส่งผู้โดยสารหมอชิต ซึ่งมีวงเงินลงทุนราว 2.6 หมื่นล้านบาท ศูนย์ราชการโซน C ที่อยู่ระหว่างคัดเลือกผู้ลงทุนก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบผูกพันลงทุนรวม 3.4 หมื่นล้านบาท
ส่วนนโยบายการช่วยเหลือเชิงสังคมนั้น ในปัจจุบันจะมีที่ราชพัสดุราว 1.3 ล้านไร่ และมีผู้ครอบครองอยู่ประมาณ 8 แสนราย แม้ส่วนราชการได้ส่งคืนที่ราชพัสดุมาให้กรมธนารักษ์จัดสรรให้ประชาชนเช่าเพื่อประกอบอาชีพซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ราว 1 หมื่นล้านบาทแล้วก็ตาม แต่ในจังหวัดต่างๆ ยังมีปัญหาขาดแคลนช่างสำรวจรังวัดที่ทำงานเชิงรุก เช่น ราชบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ นครราชสีมา ที่ต้องเร่งจัดสรรให้ผู้ครอบครอบใช้ในการเช่าเพื่อจ่ายค่าเช่าที่ราชพัสดุรายปีเพื่อจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มอีกหลายหมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมคลองเปรมประชากร โดยการใช้ที่ราชพัสดุราว 300 ไร่ นำมาใช้พัฒนาที่อยู่อาศัยแบบใหม่เพื่อนำประชาชนขึ้นจากคลอง รวมถึงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาเลนสำหรับการปั่นจักรยาน เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงการสร้างสวนสาธารณะเบญจกิติ เฟส 2 เพื่อพัฒนาสวนสาธารณะใช้เป็นปอดสีเขียวของชาวกรุงเทพฯ ด้วย
ส่วนการประเมินราคาทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อประเมินราคาที่ดิน 33 ล้านแปลง โดยครอบคลุมทั้งบ้านอยู่อาศัย ที่ดินทำกิน อาคารพาณิชย์ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม หากชาวบ้านมีข้อสงสัยถึงการประเมินราคาเพื่อเสียภาษีแล้วก็ให้เสนอขออุทรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ประจำจังหวัดพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปในระดับจังหวัดโดยไม่ต้องส่งเรื่องมายังส่วนกลางก็ได้ สำหรับเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน จำนวน 33,300 เหรียญ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 7 หมื่นล้านบาทนั้น นายอำนวย ย้ำว่า กรมธนารักษ์ต้องบริหารจัดการให้มีมากพอต่อระบบเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน กรมธนารักษ์กำลังศึกษาออกแบบเครื่องราชชุดใหม่ประจำรัชกาลที่ 10 ด้วย