ผู้ถือหุ้น "จัสมิน อินเตอร์ฯ" ไฟเขียวเพิ่มทุนและกู้ยืมเพื่อซื้อสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มอีก โบรก ฯ แนะนำให้ถือ JASIF ให้ราคาพื้นฐาน 11.30 บาท หลังซื้อสินทรัพย์รอบใหม่และขยายสัญญาเช่าหลักเดิม ทำให้กองทุนมีความมั่นคงมากขึ้น คาดว่าจะจ่ายปันผลได้ใกล้เคียงเดิม
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเมินหุ้นของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS หลังจากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น JAS อนุมัติขายสินทรัพย์เข้ากองทุน JASIF 3.8 หมื่นล้านบาท คาดดีลแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.นี้ โดยสินทรัพย์เป็นไฟเบอร์ออฟติค 7 แสนคอร์กิโลเมตร หลังการขายทาง JAS จะมีการเช่าสินทรัพย์ที่ขายนี้กลับ โดยเป็นสัญญาหลัก 80% ที่มีอัตราค่าเช่าเท่าสัญญาเดิมประมาณ 433.21 บาท/คอร์กิโลเมตร/เดือน (ไม่รวม VAT) ระยะเวลาเช่า 12 ปี 2 เดือน สิ้นสุด 29 ม.ค.2032 และสัญญาประกันรายได้ 20% อัตราค่าเช่าเริ่มต้นเท่ากับค่าเช่าของสัญญารองเดิม ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 764.48 บาท/คอร์กิโลเมตร/เดือน (ไม่รวม VAT) ระยะเวลาเช่า 3 ปี และ JASIF มีสิทธิเลือกต่ออายุสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าอีกครั้งละไม่เกิน 3 ปี แต่ไม่เกินกว่าวันที่ 29 ม.ค.2032
โดยส่วนสัญญาเช่าทรัพย์เดิมที่อยู่ในกอง JISIF จะขยายอายุเฉพาะส่วนสัญญาเช่าหลักประมาณ 784,400 คอร์กิโลเมตรจาก 22 ก.พ.2026 เป็น 29 ม.ค.2032 และให้สิทธิขยายสัญญาหลักเดิมออกไปอีก 10 ปี
นอกจากนี้ ในส่วนของ คืนหนี้ & จ่ายปันผลพิเศษลงทุน JAS จะนำเงินที่ได้จากการขยายสินทรัพย์ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น, จ่ายปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น JAS หลังปิดงวดบัญชีปี 2019 แล้ว, ลงทุนพัฒนาโครงข่าย (เปลี่ยนจากสายทองแดงเป็นไฟเบอร์ออฟติคให้หมดภายในปี 2020) และพัฒนาการบริการอื่นๆ
ขณะที่ JASIF เพิ่มทุนกู้ยืมในการซื้อสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่ม ในการซื้อสินทรัพย์ JASIF จะมีการกู้ยืม 1.55 หมื่นล้านบาท และที่เหลือ 2.25 หมื่นล้านบาทจะมาจากการเพิ่มทุนไม่เกิน 2.5 พันล้านหน่วย (มี Dilution Effect ไม่เกิน 31.25%) ซึ่งจะมีการกำหนดสัดส่วนและราคาเพิ่มทุนในเร็วๆนี้ (ราคาเพิ่มทุนอาจมี Discount จากราคาตลาด)
ดังนั้นจึง แนะนำถือ JASIF และให้ใช้สิทธิซื้อหน่วยเพิ่มทุน ให้ราคาพื้นฐาน 11.30 บาท โดยหลังซื้อสินทรัพย์รอบใหม่และขยายสัญญาเช่าหลักเดิม ทำให้กองทุนมีความมั่นคงมากขึ้น คาดว่าจะจ่ายปันผลได้ใกล้เคียงเดิม ณ ราคาปัจจุบัน 11 บาท คิดเป็นคาดการณ์ Dividend Yield 9.5% ต่อปี