BLS เผย DW01 ครองแชมป์เบอร์ 1 ตลาดต่อเนื่อง พร้อมแนะ 3 เทคนิคเทรดช่วงตลาดผันผวน สำหรับภาพรวมตลาด DW เดือน ส.ค.ที่ผ่านมายังได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง (BLS) ในฐานะผู้ออกและเสนอขาย DW01 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด เปิดเผยว่า บริษัทยังครองส่วนแบ่งเป็นผู้ออกที่มีจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) สูงสุดในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นเดือน ส.ค. 62 มี DW จำนวน 320 รุ่นคิดเป็น 18.47% ของจำนวน DW ที่ซื้อขายทั้งหมดในตลาด แบ่งเป็น Call DW 206 รุ่น และ Put DW 114 รุ่น และมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกคิดเป็น 70.75% ของจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีทั้งหมดในอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงยังเป็นผู้ออก DW ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในเดือน ส.ค. 62 เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 39.4% สะท้อนความนิยมจากนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหากพิจารณาจากยอดการถือครอง DW โดยนักลงทุน หลักทรัพย์บัวหลวงเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เช่นกันอยู่ที่ 37.5%
"ภาพรวมตลาดในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาความผันผวนปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัย SET ลดลงกว่า 3% ซึ่งเป็นภาวะที่นักลงทุนสามารถสร้างโอกาสเก็งกำไรจาก DW ได้ สะท้อนจากมูลค่าซื้อขาย DW สูงกว่า 1.6 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การเก็งกำไรในตลาดผันผวน สิ่งสำคัญคือ การควบคุมความเสี่ยง" นายบรรณรงค์กล่าว
สำหรับหลักทรัพย์บัวหลวงในฐานะผู้ออก DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอุตสาหกรรม จึงแนะนำ 3 เทคนิคการเทรด DW ในช่วงตลาดผันผวน โดย 1) หา DW ที่ค่าเสื่อมเวลาต่ำลง ซึ่งอัตราทดจะไม่สูงมาก ในภาวะตลาดผันผวน หุ้นแม่จะเหวี่ยงตัวมากกว่าปกติ ซึ่ง DW ที่มีอัตราทดไม่สูงมากก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ อีกทั้งค่าเสื่อมเวลาที่ต่ำลงจะทำให้มีต้นทุนการถือครองที่ต่ำกว่า โดยเฉพาะ DW01 อ้างอิงหุ้นรายตัว "ซีรีส์ A" ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีค่าเสื่อมเวลาต่ำกว่า DW ทั่วไปในตลาด โดยที่อัตราทดไม่ได้ต่ำกว่ามากนัก นอกจากนี้ หากคาดการณ์ทิศทางหุ้นแม่ผิดทางจะเสียหายน้อยกว่าด้วย
สำหรับเทคนิคที่ 2) การแบ่งเงิน นักลงทุนควรกำหนดเงินในการเทรด DW แต่ละครั้งให้ชัดเจน เนื่องจาก DW มีระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นสามัญ ดังนั้นกลยุทธ์ที่สำคัญคือ การบริหารเงินในการลงทุนแต่ละครั้งให้เหมาะสมกับขนาดพอร์ตโดยรวม และอย่า "กล้า" ใช้เงินมากเกินสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง ซึ่งจะทำให้การเทรด DW ในระยะยาวมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
ส่วนเทคนิคสุดท้าย การใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยเทรด จะทำให้ควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น เพราะสามารถทำให้การลงทุนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่น การเทรดผ่านโปรแกรม "Trade Master" ด้วยฟังก์ชัน "Auto Trade" ซึ่งนักลงทุนสามารถส่งคำสั่งอัตโนมัติด้วยคำสั่งซื้อและขายพร้อมๆ กัน โดยสามารถระบุเงื่อนไขราคาและกรอบเวลาตามแผนที่วางไว้ได้อย่างเป็นระบบด้วยตัวเอง
สำหรับภาพรวมตลาด DW เดือน ส.ค.ที่ผ่านมายังได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 160,725 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขาย DW เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 7,654 ล้านบาท ด้วยสัดส่วนมูลค่าการซื้อขาย DW ต่อหลักทรัพย์ทั้งระบบอยู่ที่ 11.8% โดยสัดส่วนมูลค่าการซื้อขาย Put DW รายเดือนต่อการซื้อขาย DW ทั้งหมดอยู่ที่ 48.7% สูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2562 สอดคล้อง SET เดือน ส.ค. 62 ปรับตัวลดลง 57 จุดหรือ 3.33%
นอกจากนี้ พบว่า DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น DW ที่อ้างอิงกับ SET50 มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 63.1% ของการซื้อขาย DW ทั้งอุตสาหกรรม โดยลงทุนใน DW ประเภท Put เป็นสัดส่วนสูงถึง 59.8% ของมูลค่าซื้อขาย DW ที่อ้างอิงกับ SET50 ทั้งระบบ สอดคล้องกับทิศทางดัชนี SET ปรับตัวลดลง ส่วนอันดับ 2 เป็น DW อ้างอิงหุ้น PTG โดยราคาหุ้นแม่ลดลงแรงในวันแรกของเดือน ส.ค. หลังจากนั้นทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จึงมีแรงเก็งกำไรเข้ามาใน DW ประเภท Call จำนวนมาก และอันดับ 3 เป็น DW อ้างอิงหุ้น GULF ซึ่งถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมในการเทรด DW ต่อเนื่อง 8 เดือนติดต่อกัน หลังจากราคาหุ้นทำนิวไฮต่อเนื่อง
ด้านจำนวน DW สิ้นเดือน ส.ค. 62 มีการซื้อขายทั้งหมด 1,733 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 1,340 รุ่นและ Put DW 393 รุ่น ลดลงจากสิ้นเดือน ก.ค. 62 ที่มีจำนวน 1,837 รุ่น ขณะที่หลักทรัพย์อ้างอิงสิ้นเดือน ส.ค. 62 มีทั้งสิ้น 106 ตัวลดลง 3 ตัวจากเดือน ก.ค. 62