"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ระบุ 21 ก.ย.62 นัดประชุมใหญ่ภาคประชาชนทั่วประเทศเพื่อหนุนตั้งธนาคารชุมชนเริ่มต้น 2 หมื่นแห่ง หวังใช้เป็นแหล่งทุนชาวบ้าน คาดเสนอ ครม. พิจารณาได้ใน ก.ย.นี้ "อุตตม สาวนายน" ยอมรับบาทแข็งกระทบส่งออก มุ่งเน้นสร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างภูมิคุ้มกันภายในประเทศให้แข็งแรง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมนโยบาย “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก” ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อหวังใช้เวลาในช่วงเศรษฐกิจโลกมีปัญหากลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากโดยผ่านการปฏิรูปความแข็งแรงของโครงสร้างชุมชนและความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐ ทั้งในภาครัฐ เอกชน และประชาชนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ชุมชน ตลาดประชารัฐ การท่องเที่ยวขุมชนเข้มแข็ง
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้วันที่ 21 ก.ย.62 นัดประชุมใหญ่ทุกเครือข่ายทั่วประเทศที่เมืองทองธานี โดยทั้ง ธ.ก.ส. ออมสิน กองทุนหมู่บ้าน สภาเกษตรกรทั่วประเทศ นำเสนอมาตรการช่วยเหลือชุมชน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ส่งเสริมด้านเกษตรแปรรูป ธนาคารรัฐมาช่วยเหลือทั้งความรู้และการเติมทุน เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและพัฒนาครอบคลุมทุกด้าน
ด้าน นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกหน่วยงานจะร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันยกระดับฐานรากทั้งเงินทุน เติมความรู้เข้ามาพัฒนาหวังใช้ด้านการตลาดเป็นตัวนำ การส่งเสริมการผลิตแปรรูปรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น ธ.ก.ส. จะศึกษาแนวทางดูแลเกษตรกรผ่านการสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาไปสู่สมาร์ทฟาร์เมอร์ ส่วนธนาคารออมสิน จะดูแลพ่อค้า แม่ค้า แฟรนไชส์ เพื่อยกระดับกิจการผ่านธนาคารประชาชน ซึ่งจะมีเงื่อนไขผ่อนปรนเพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนและมีความรู้พัฒนากิจการ ขณะที่ สสว. และเอสเอ็มอีแบงก์ ช่วยเหลือเอสเอ็มอี และด้านการท่องเที่ยวชุมชน ส่วนกรมธนารักษ์จะจัดเตรียมพื้นที่เหมาะสมเพื่อจัดตลาดนัดประชารัฐซึ่งใช้เป็นช่องทางตลาด และเมื่อทุกหน่วยงานศึกษาแนวทางช่วยเหลือได้แล้วจะนำมาสรุปร่วมกันเสนอต่อเวทีใหญ่ให้รับทราบ และนำเสนอมาตรการช่วยเหลือให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาภายในเดือน ก.ย.นี้
ด้าน นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านทั้งหมด 7.8 หมื่นแห่ง แต่จะมี 2 หมื่นแห่งที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในเกรดเอ เนื่องจากเป็นกองทุนหมู่บ้านที่มีผลดำเนินการดีเด่น เหมาะต่อการส่งเสริมและผลักดันให้เป็นธนาคารชุมชนนำร่อง เนื่องจากขณะนี้กฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ธนาคารชุมชน เตรียมบังคับใช้เพื่อให้ธนาคารชุมชนมีสภาพเป็นนิติบุคคล เป็นช่องทางในการดูแลสมาชิกในชุมชนอย่างใกล้ชิด โดยมีแบงก์รัฐคอยเป็นพี่เลี้ยงเติมทุน และความรู้บริหารจัดการให้เป็นระบบ
นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 6 ปี 6 เดือน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดและทำงานประสานกับกระทรวงการคลังให้สอดคล้องกัน ยอมรับว่าภาคส่งออกย่อมได้รับผลกระทบ แต่หลายประเทศต่างมีปัญหาเช่นเดียวกัน ไทยจึงต้องเน้นการสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันในประเทศรองรับปัจจัยภายนอกในระยะยาว การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง จึงมีความจำเป็นในระยะยาว