กรมสรรพสามิตเล็งปรับลดภาษีเครื่องดื่มนวัตกรรมต่ำกว่าน้ำอัดลม พร้อมปรับขึ้นเบียร์ 0% สกัดนักดื่มหน้าใหม่ ส่วนภาษียาสูบที่จะมีการปรับขึ้นเป็น 40% ในปี 2563 นั้น กรมสรรพามิตอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเรียกร้องและผลกระทบของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง ด้าน "อุตตม" จี้ใช้ระบบอีแสตมป์ภายในปีนี้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายนโยบายผู้บริหารกรมสรรพสามิตให้จัดเก็บภาษีสุรา เบียร์ ยาสูบ ให้รัดกุมมากขึ้น กำชับให้เร่งนำอีแสตมป์มาใช้ในการจัดเก็บภาษีเพื่อป้องกันการรั่วไหล รวมถึงภาษีน้ำมันที่ส่งออกไปแล้วนำกลับเข้ามาในประเทศ โดยให้เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมภาษีอื่นๆ ส่วนภาษียาสูบที่จะมีการปรับขึ้นเป็น 40% ในปี 2563 นั้น กรมสรรพามิตอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเรียกร้องและผลกระทบของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตมีการผลิตและนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ที่ใช้กับรถมากขึ้น จึงเห็นควรให้ตั้งกองทุนขึ้นมาดูแลการกำจัดแบตเตอรี่เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
หลังจากกรมสรรพสามิตจะมีการปรับขึ้นภาษีน้ำตาลในเครื่องดื่มที่มีความหวานวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ล่าสุด กรมฯ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับอัตราภาษีกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ใหม่ โดยจะมีการจัดกลุ่มเครื่องดื่มแยกประเภทให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น กลุ่มของเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงก์ หรือเครืองดื่มนวัตกรรม เช่น น้ำเปล่าที่มีการเติมวิตามินซี หรือคอลเลเจนที่มีผลดีต่อสุขภาพจะมีการปรับลดอัตราภาษีลงจากที่จัดเก็บเท่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ 14% บวกภาษีความหวานตามปริมาณน้ำตาล เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันไปใช้นวัตกรรมในการผลิตสินค้ามากขึ้น
ส่วนเครื่องดื่มประเภทเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ หรือ 0% จากที่จัดเก็บภาษีเท่าน้ำอัดลม จะมีการแยกพิกัดใหม่ให้สูงกว่าน้ำอัดลม แต่ต่ำกว่าเบียร์ เพื่อลดการบริโภคของคนรุ่นใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้