xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐีเงินทอนหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ไม่นานมานี้ มีคำตัดสินลงโทษ จำคุกอดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งในความผิดทางอาญา ซึ่งใครคิดว่า อดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายนี้ คงไม่รอด แต่ล่าสุด ทำท่ารอดแล้ว เพราะมีการเจรจาประนีประนอมกับโจทก์ที่ยื่นฟ้องดำเนินคดี

เบื้องหลังการเจรจาประนีประนอม เกิดขึ้นเพราะต่างฝ่ายต่างมีคดีฟ้องร้องกันวุ่นวาย เพียงแต่คดีที่อดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายนี้ถูกฟ้อง มีคำตัดสินออกมาก่อนเท่านั้น

ส่วนคดีที่อดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายนี้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคู่กรณี อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

การเจรจาประนีประนอมคือ ฝ่ายโจทก์ไม่ติดใจเอาความ ขณะที่อดีตผู้บริหารจดทะเบียน จะถอนฟ้องคู่กรณีในความผิดเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์สิน

คู่กรณีคู่นี้ เคยร่วมกันบริหารบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในภาวะล่มสลาย เพราะมีปัญหาด้านฐานะการเงิน หุ้นถูกขึ้นเครื่องหมาย SP

อดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนทั้งสอง เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากผลประโยชน์ภายใน โดยคู่กรณีที่ยื่นฟ้อง เป็นอดีตผู้บริหารที่มีอำนาจสูงสุด โดยเดิมเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดหรือมาร์เกตติ้งของบริษัทโบรกเกอร์เท่านั้น

แต่ได้รับการชักชวนให้เข้ามาบริหารบริษัทจดทะเบียน ซึ่งบริหารงานภายในไม่กี่ปี ยกระดับตัวเองเป็นเศรษฐี เพราะกอบโกยเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน

วิธีการกอบโกยคือ การซื้อทรัพย์สินในราคาที่สูงเกินจริงเข้าบริษัทจดทะเบียน โดยมีเงินทอนเข้ากระเป๋าส่วนตัว

มาร์เกตติ้งบริษัทโบรกเกอร์ธรรมดาคนหนึ่ง ทำงานไม่กี่ปี สามารถยกระดับตัวเองเป็นเศรษฐี มีเงินนับร้อยๆ ล้านบาท ทำให้อดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนคู่กรณี ยอมไม่ได้

และหันมาสูบเงินออกจากบริษัทจดทะเบียนตาม โดยผลักดันการซื้อทรัพย์สินในราคาที่แพงเกินจริง และหาเงินทอนเข้ากระเป๋าบ้าง

ทรัพย์สินที่ควรจะมีมูลค่ายุติธรรมเพียง 1 พันล้านบาทเศษ แต่กลับซื้อเข้ามาในราคาหลายพันล้านบาท รับเงินทอนนับพันล้านบาท

การซื้อทรัพย์สินของบริษัทจดทะเบียน เป็นช่องทางการผ่องถ่าย ไซฟ่อน หรือยักยอกเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน และเป็นธุรกรรมบังหน้าที่ทำกันนับสิบๆ บริษัท

บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เคยออกมาท้วงติงรายการซื้อทรัพย์สินของบริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่ง เพราะราคาที่ตกลงซื้อ เป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่ายุติธรรม แต่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนดันทุรังซื้อทรัพย์สินจนได้ เพราะวางแผนการไซฟ่อนเงินไว้แล้ว

บริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่ง ต้องตกอยู่ในสภาพตายซาก ผลประกอบการมีปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง ฐานะทางการเงินทรุดหนัก จนต้องเข้ากลุ่มฟื้นฟูการดำเนินงาน เพราะการไซฟ่อนเงิน โดยช่องทางการซื้อทรัพย์สิน

และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ ไม่สามารถป้องกันและปราบปรามได้

อดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ถูกคำตัดสินลงโทษจำคุก และมีพฤติกรรมส่อไซฟ่อนเงิน แต่อาจไม่ต้องชดใช้กรรมที่ก่อ เพราะสามารถเจรจาประนีประนอมต่อรอง ถอนฟ้องกับคู่กรณี ในความผิดการฉ้อฉลบริษัทจดทะเบียนที่เคยร่วมกันบริหาร

ต่างคนต่างมีแผล ต่างฝ่ายต่างเปิดโปงความผิดกัน ถ้าสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายอาจติดคุกทั้งคู่ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะสู้กัน นอกจากเลิกแล้วต่อกัน และเสพสุขเงินที่สูบออกจากบริษัทจดทะเบียนด้วยกันดีกว่า

อดีตผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนคู่นี้ ร่วมกันทำให้บริษัทจดทะเบียนต้องล่มสลาย ผู้ถือหุ้นนับหมื่นคนเสียหาย สุดท้ายอาจไม่มีใครรับโทษ เพราะเจรจายอมความกัน

เหลือแต่ นักลงทุนเท่านั้นที่ต้องรับกรรมจากพฤติกรรมของอดีตผู้บริหารคู่นี้ ซึ่งทำธุรกรรมซื้อทรัพย์สินอำพราง เพื่อหาเงินทอนจนร่ำรวยเป็นเศรษฐี

การซื้อทรัพย์สิน เพื่อหาเงินทอน ไม่ได้เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียนแห่งใดแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียนนับสิบๆ แห่ง

และทำให้เกิดมหาเศรษฐีเงินทอนในตลาดหุ้นจำนวนมากมาย ท่ามกลาง หายนะของนักลงทุนรายย่อยนับแสนราย



กำลังโหลดความคิดเห็น