กูรูแนะนำกลุ่มหุ้นเดือนกันยายน เน้นอัตราปันผลสูงลดความเสี่ยง หรือบริษัทที่มีรายได้-กำไรมั่นคง รวมถึงที่มีอัตราการเติบโตจากภายในประเทศ
บล.ทรีนิตี้ : หากผลการประชุมของธนาคารกลางต่างๆ เหล่านี้ออกมาสอดคล้องกับสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้ มองจะไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก แต่หากผลที่ออกมาดีหรือแย่กว่าตลาดคาด ต่อไป โดยน้ำหนัก 80% จัดสรรไปยังหุ้นกลุ่ม ประเมินว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดผันผวนได้ ด้วยเหตุนี้ จึงแนะนำนักลงทุนจัดสรรน้ำหนักการลงทุนหุ้นด้วยสูตร 80:20 Domestic (BJC, CPALL, ADVANC, INTUCH, BCH, BEM, RATCH, EASTW, VGI, S11, THANI, AMANAH, REIT & IFF) และน้ำหนักอีก 20% จัดสรรไปยังหุ้นกลุ่ม Cyclical (IVL, PTTEP)
บล.ทิสโก้ : แนะนำหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ มีรายได้และกำไรค่อนข้างมั่นคง ได้แก่ AOT, BDMS และ EASTW ถัดมาแนะนำเลือกลงทุนเป็นรายตัวในหุ้นที่คาดว่าจะมีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น CK, PLANB และ SABINA
บล.ไอร่า : หุ้นเด่นประจำเดือนกันยายน ได้แก่ ADVANC, ASK, PTG, SEAFCO, SPALI และ TKN โดยประเมินกลยุทธ์การลงทุนแนวรับแรก 1,630 จุด และแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,680 จุด และแนวต้านถัดไป 1,698 จุด นอกจากนี้ แนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามปัจจัยการปรับตัวขึ้น-ลงของราคาน้ำมัน ซึ่งในระยะสั้นได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับลดการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงความต้องการที่คาดกลับมาดี รวมถึงหุ้นปันผล โดยเฉพาะใน SET 50 ซึ่งมี Highest Div. Yield ไม่ต่ำกว่า 5.0% เช่น TISCO, KKP, LH และ TCAP รวมถึงหุ้นโรงไฟฟ้า จากผลประกอบการที่ยังสามารถเติบโตต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจมีความผันผวน และหุ้นที่มีปัจจัยโดดเด่นเฉพาะตัว เช่น SCB ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นจากการขาย SCB LIFE ให้กับ FWD พร้อมคาดจ่ายปันผลพิเศษประมาณ 18-19 บาทต่อหุ้น
บล.เอเซีย พลัส : บริษัทได้คัดกรองหุ้นปันผลเด่นที่น่าสนใจ 11 บริษัท ได้แก่ TCAP Div. Yield ปี 2562 ประมาณ 10.57%, TPIPP คาด Div. Yield ปี 2562 ประมาณ 7.68%, DRT คาด Div. Yield ปี 2562 ประมาณ 6.40%, KKP คาด Div. Yield ประมาณ 6.27%, MCS คาด Div. Yield ประมาณ 5.78%, PYLON คาด Div. Yield ประมาณ 5.75% SPALI คาด Div. Yield ประมาณ 5.53%, TTW คาด Div. Yield ประมาณ 5.08%, BCP คาด Div. Yield ประมาณ 4.34%, PTTEP คาด Div. Yield ประมาณ 4.20% และ INTUCH คาด Div. Yield ประมาณ 4.18%