หุ้นบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO อาจไม่ใช่หุ้นยอดนิยมของนักเก็งกำไร แต่เป็นหุ้นที่ นักลงทุนสถาบัน กองทุนทั้งในและต่างประเทศ ต้องซื้อไว้ติดพอร์ต ในฐานะหุ้นชั้นดีที่มีผลตอบแทนคุ้มต่อการลงทุนระยะยาว และจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ ตลอด 24 ปีนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สัปดาห์นี้ EGCO เกิดความคึกคักเป็นพิเศษ ราคาพุ่งทะยานจนสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ปิดที่ 357 บาท หลังจาก ผู้บริหารบริษัทฯ ออกมาพูดถึงการแตกมูลค่าหุ้นหรือแตกพาร์ จากปัจจุบันกำหนดราคาพาร์ไว้ที่ 10 บาท และไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับจากเข้าจดทะเบียน
EGCO เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยขยับขึ้นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ตามรูปแบบหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 25.41% ของทุนจดทะเบียน ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยมีจำนวน 11,874 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 50.01%
ผลประกอบการของ EGCO เติบโตต่อเนื่อง ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ โดยปี 2561 มีกำไรสุทธิ 21,072.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 11,818.28 ล้านบาท ส่วน 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 7,697.47 ล้านบาท มีค่า พี/อี เรโช ที่ 16.47 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.77%
EGCO เคยสร้างปรากฏการณ์ เป็นหุ้นน้องใหม่ที่นักลงทุนเข้าแถวรอจองซื้อยาวเหยียด ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2538
บริษัทหลักทรัพย์ เจ.เอฟ.ธนาคม จำกัด ในช่วงที่นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นผู้บริหาร และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ร่วมกันเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น
หุ้น EGCO ที่เสนอขายนักลงทุนนั้น ส่วนหนึ่งได้นำมาจัดสรรให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อ นอกเหนือจากการจัดสรรให้เฉพาะลูกค้าบริษัทโบรกเกอร์ที่ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
หุ้นที่จัดสรรให้ประชาชนทั่วไปนั้น เปิดจองซื้อที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปรากฏว่า ประชาชนแห่มาจองซื้อกันล้นหลาม จนต้องเข้าแถวเรียงคิวกันยาวเหยียดกลางแดด
ยอดจองซื้อของประชาชนเกินโควตาหุ้นที่นำมาจัดสรรหลายสิบเท่าตัว ทำให้ต้อง “แรนดอม” หรือสุ่มคัดเลือกผู้ที่จะได้รับการจัดสรร
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ในช่วงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และนำหุ้นเปิดให้จองซื้อในราคา 60 บาท เมื่อกลางปี 2534 ประชาชนทั่วประเทศให้ความสนใจกันอย่างคึกคักเหมือนกัน จนเกินโควตาที่จัดสรร ซึ่งการบินไทยใช้วิธีการเกลี่ยหรือเฉลี่ยให้ผู้จองซื้อคนละ 200 หุ้น
แต่หุ้น EGCO ใช้วิธีแรนดอม โดยทุกคนมีสิทธิได้รับจัดสรรตามจำนวนที่จองซื้อ ถ้าได้รับการสุ่มคักเลือกจากระบบคอมพิวเตอร์
และผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้น EGCO ทุกคน ไม่มีใครต้องผิดหวัง เพราะเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ราคาพุ่งทะยานทันที นักลงทุนกำไรกันถ้วนหน้า
แม้ราคาหุ้นจะสร้างสถิติใหม่ พุ่งขึ้นสูงสุดนับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่สำหรับการลงทุนระยะยาว ราคาระดับนี้ยังมีความน่าสนใจ
แต่สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะการเก็งกำไรข่าวการแตกพาร์ อาจต้องระวังจังหวะการลงทุนสักหน่อย
เพราะการแตกพาร์ เป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านปัจจัยพื้นฐาน และผลในเชิงจิตวิทยากระตุ้นการเก็งกำไร แม้จะมีอยู่บ้าง แต่ไม่มากมายเหมือนอดีตแล้ว
ถ้าคิดจะเก็งกำไรจากการแตกพาร์ ต้องดูการแตกพาร์หุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เป็นตัวอย่าง
ก่อนแตกพาร์จาก 10 บาทเหลือพาร์ 1 บาท PTT ยืนอยู่ระดับ 500 บาทต้นๆ หลังแตกพาร์เมื่อปลายเดือนเมษายนปีก่อน มีการเก็งกำไรกันอยู่พักใหญ่ แต่ราคาก็ไปไม่ไกล ล่าสุดราคาลงมายืนระดับ 40 บาทต้นๆ
นักลงทุนที่แห่เข้าไปเก็งกำไรข่าวการแตกพาร์ ติดหุ้น PTT กันเป็นแถวจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้น หากหวังเก็งกำไรระยะสั้นหุ้น EGCO จากข่าวการแตกพาร์ ราคาแถวนี้เริ่มมีความเสี่ยงแล้ว
เว้นแต่พร้อมจะ เปลี่ยนฐานะเป็นนักลงทุนระยะยาว หากเข้าไปเก็งกำไรผิดจังหวะ และพลาดติดหุ้น EGCO
