ไวส์ โลจิสติกส์ เผยสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน กระทบภาพรวมโลจิสติกส์ ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ชี้เห็นปัญหา พร้อมรับมือป้องกันความเสี่ยงทุกทาง มองเป็นโอกาส หากย้ายฐานผลิตในแถบเอเชีย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มงานบริการทุกรูปแบบ มั่นใจปีนี้รายได้โต 25%
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE เปิดเผยว่า ความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่ 2 ประเทศมหาอำนาจใช้ตอบโต้กันไปมาหลายต่อหลายครั้ง
ล่าสุดจีนประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากจีน มูลค่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญ รวมทั้งยังขอให้บริษัทของสหรัฐอเมริกาย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนด้วย ขณะที่สหรัฐอเมริกากดดันให้จีนรีบทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐอเมริกาก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า พร้อมทั้งประกาศเก็บภาษีสินค้าจากจีนอีกมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 25% เป็น 30% เริ่ม 1 ต.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันชาติของจีน ส่งผลทำให้เกิดแรงกดดันต่อภาคการค้าการลงทุน และอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลขการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของหลายประเทศลดลง
จากปัจจัยดังกล่าว WICE ได้เฝ้าดูสถานการณ์สงครามการค้าอย่างใกล้ชิด ว่าสหรัฐอเมริกาและจีนจะดำเนินการอย่างไร หรือมีมาตรการกีดกันการค้าในรูปแบบใดออกมาอีก รวมถึงสถานการณ์ค่าเงินบาท และสถานการณ์ชุมนุมในฮ่องกงที่เริ่มรุนแรงขึ้น ซึ่งบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีได้โดยเร็วเพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบันเกิดการชะลอตัวลงจากการค้าการขนส่งระหว่างกันของจีนกับสหรัฐฯ ทำให้ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ทุกแขนงต่างได้รับผลกระทบ รวมถึง WICE ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม WICE มองเห็นถึงปัญหา จึงมีมาตรการป้องกันและกระจายความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อธุรกิจมาโดยตลอด
“แม้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะยังไม่สดใส แต่ WICE มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จากการที่จีนย้ายฐานผลิตและกระจายการค้าการลงทุนมายังประเทศแถบเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ WICE ได้วางกลยุทธ์เข้าไปขยายตลาดในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วก่อนหน้านี้ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างประเทศของ WICE ในตลาดจีน ทำให้บริษัทมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในจีนมากขึ้น และมีโอกาสรับงานขนส่งขาไปและขากลับได้ ส่งผลให้มีปริมาณงานในจีนเพิ่มขึ้น และบริษัทยังพยายามหาช่องทางการขนส่งในตลาดใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่หลากหลายในจีนเพื่อเพิ่มปริมาณงานให้มากยิ่งขึ้น” นายชูเดชกล่าว
นายชูเดชกล่าวต่อไปว่า ภาพรวมธุรกิจปี 62 ของ WICE บริษัทเชื่อมั่นว่ารายได้รวมทั้งปีจะเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ 25% หรืออยู่ที่ 2,200 ล้านบาท และเป็นการสร้างสถิติการเติบโตสูงสุดต่อเนื่องตามแนวโน้มปริมาณงานภาคขนส่งในประเทศและต่างประเทศเริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดในจีนมีปริมาณงานเพิ่มมากขึ้น และไตรมาส 3/62 เป็นช่วงเข้าสู่ไฮซีซันต่อเนื่องจนถึงปลายปี ส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น และธุรกิจโลจิสติกส์มีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นตาม
ขณะที่แผนการดำเนินงานช่วงต่อจากนี้ไปจะเป็นปีแห่งผลลัพธ์ที่ดีทั้งด้านรายได้และอัตรากำไร หลังจากที่บริษัทลงทุนเข้าไปขยายธุรกิจเพิ่มในตลาดจีนผ่านเครือข่ายสาขาของ WICE ทั้ง WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd. (WICE SG), WICE Logistics (Hong Kong) Ltd. (WICE HK ), EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO., LTD. (ETL) และ WICE Logistics (Shenzhen) Company Ltd. (WICE SZ) ด้วยแผนการร่วมโปรโมตงานบริการทุกรูปแบบในตลาดจีนและฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซินเจิ้น โดยเฉพาะงานบริการขนส่งข้ามชายแดน (Cross border)