xs
xsm
sm
md
lg

บล.ไอร่าคัดหุ้นเด่นเดือนกันยายน เก็งกำไร ADVANC-ASK-PTG-SEAFCO-SPALI-TKN

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บล.ไอร่าระบุตลาดหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยลบ แต่ไม่วางใจ พร้อมจับตาเศรษฐกิจโลกหลังเกิดภาวะ Inverted Yield Curve ติดต่อกันในช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และปัญหาสงครามการค้า สหรัฐฯ-จีนที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่วนเศรษฐกิจในประเทศคาดได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ให้แนวรับแรก 1,630 จุด แนวรับถัดไป 1,610 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,680 จุด และแนวต้านถัดไป 1,698 จุด พร้อมแนะนำหุ้นเด่นประจำเดือนนี้ชู ADVANC-ASK-PTG-SEAFCO-SPALI-TKN

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนกันยายนว่า ภาพรวมยังมีความผันผวน แต่มีโอกาสปรับขึ้นหลังดัชนีปรับลงไปต่ำสุดเกือบ 100 จุดในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเชื่อว่าสะท้อนปัจจัยลบจากประเด็นต่างประเทศไปบ้างแล้ว แม้ยังมีความไม่แน่นอนของประเด็นเดิมอยู่ก็ตาม อาทิ สงครามการค้า ซึ่งหากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีนสามารถเกิดขึ้นได้และเป็นไปอย่างราบรื่น คาดกลับมาเป็น Sentiment บวกต่อตลาดทั่วโลก และความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังเกิดสภาวะที่อัตราผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้น "มากกว่า" อัตราผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุยาว (Inverted Yield Curve) ติดต่อกันและต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยหนุนเข้ามาบ้างจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ เช่น สหรัฐฯ จีน และเยอรมนี เป็นต้น พร้อมติดตามการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่ามีโอกาสสูงที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อกระแส Fund Flow ทำให้มีโอกาสไหลกลับเข้า Emerging Market รวมถึงไทย

ส่วนประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดมีต่อเนื่อง คาดช่วยให้ครึ่งหลังปี 2562 เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พร้อมติดตามการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) ในวันที่ 25 กันยายน 2562 ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50% และจับตาการทำ Window Dressing เพื่อปิดงบไตรมาส 3/256 ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้

ดังนั้น แนะนำหุ้นเด่นประจำเดือนกันยายน ดังนี้ ADVANC, ASK, PTG, SEAFCO, SPALI และ TKN โดยประเมินกลยุทธ์การลงทุนแนวรับแรก 1,630 จุด และแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,680 จุด และแนวต้านถัดไป 1,698 จุด

นอกจากนี้ แนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามปัจจัยการปรับตัวขึ้น ลงของราคาน้ำมัน ซึ่งในระยะสั้นได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับลดการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงความต้องการที่คาดกลับมาดี หากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนส่งสัญญาณที่ดี รวมทั้งหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม คาดได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐฯ ผ่าน BOI คาดส่งผลดีต่อความต้องการที่ดินในนิคมฯ

พร้อมทั้งหุ้นปันผล โดยเฉพาะใน SET 50 ซึ่งมี Highest Div. Stock by Yield ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2562 น่าสนใจ คาด Div.Yield ไม่ต่ำกว่า 5.0% เช่น TISCO, KKP, LH และ TCAP รวมถึงหุ้นโรงไฟฟ้า จากผลประกอบการที่ยังสามารถเติบโตต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจมีความผันผวน และหุ้นที่มีปัจจัยโดดเด่นเฉพาะตัว เช่น SCB ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นจากการขาย SCB Life ให้กับ FWD พร้อมคาดจ่ายปันผลพิเศษ ประมาณ 18-19 บาท/หุ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น