SC จัดกิจกรรมเรียกความเชื่อมั่นลูกค้า หลังได้รับผลกระทบเกณฑ์ LTV มั่นใจยอดโอนคอนโดฯซุปเปอร์ลักชัวรี "28 Chidlom"ปีนี้กวาด 3,500 ล้านบาท ลั่นไม่เกินปี 63 ปิดการขายโครงการ จ่อเปิดอีก 2 โครงการใหม่ มูลค่า 4,500 ล้านบาท
นายประยงค์ยุทธ อิทธิรัตน์ รองหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "SC" เปิดเผยถึงผลของมาตรการกำกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV ว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้บังคับมาตรการดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของลูกค้าในการโอนบ้าง ซึ่งบริษัทต้องหันมาจัดกิจกรรมเพิ่มความเชื่อมั่นและให้ลูกค้าเข้ามาโอนได้ตามกำหนด เช่น การจัดงานทานอาหารร่วมกับลูกค้าที่ซื้อโครงการ SALADAENG ONE เพื่อทำการสื่อสารและทำความเข้าใจกับลูกค้า หรือแม้แต่ โครงการ 28 Chidlom คอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักชัวรี ทางบริษัทได้ทยอยเชิญลูกค้ามาในงาน Open House เพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนโอนกรรมสิทธิ์
โดยคอนโดมิเนียม 28 Chidlom มีมูลค่าโครงการถึง 8,000 ล้านบาท จะเริ่มโอนโครงการให้แก่ลูกค้าช่วงเดือนกันยานนี้ ตั้งเป้ามูลค่าการโอนถึงสิ้นปีอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท ทั้งจากยอดขายอาคาร The Tower ที่มีการขายไปแล้ว 80% จาก 243 ยูนิต และอาคาร The Villa ขายไปแล้ว 40% จาก 182 ยูนิต รวมเฉลี่ยทั้งโครงการขายไปแล้ว 60% ตั้งแต่เปิดการขายเมื่อปี 2560 หรือมียอดขายอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท และภายในสิ้นปี 2563 จะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ ซึ่งมั่นใจว่า จะมีลูกค้าเข้ามาซื้อเพิ่มขึ้นหลังจากที่บริษัททำการ Open House โครงการ 28 Childlom ในวันที่ 7-8 ก.ย. 62 นี้
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม 28 Chidlom ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในย่านชิดลมที่ตั้งอยู่บนทำเลที มีศักยภาพ บนที่ดินฟรีโฮลด์ขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ และด้วยศักยภาพของทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ที่ดินในย่านดังกล่าวมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้ราคาขายของโครงการเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเปิดขายพรีเซล ปัจจุบันเริ่มต้นอยู่ที่ 320,000 บาทต่อตารางเมตร
ทั้งนี้ เป้ายอดขายโอนที่วางไว้ 3,500 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของเป้ายอดโอนในกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมวางไว้ทั้งปี 6,500 ล้านบาท ซึ่งจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ Centric รัชโยธิน ที่สร้างเสร็จแล้ว มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70% และคาดว่าจะเริ่มโอนในช่วงเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเข้ามาหนุนยอดโอนของคอนโดมิเนียมให้เป็นไปตามเป้าที่บริษัทตั้งไว้
ในส่วนของแผนการเปิดโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะมีการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ โครงการ The Crest Park Residences โครงการร่วมทุนพันธมิตรญี่ปุ่น Nishitetsu มูลค่าโครงการราว 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับราคาขายและรูปแบบโครงการให้มีความเหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะเปิดขาย Soft Launch ในช่วงเดือน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ และโครงการ Chamber อ่อนนุช เฟส 2 มูลค่าราว 1,400 ล้านบาท หลังจากที่โครงการ Chamber อ่อนนุช เฟสแรก ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
" บริษัทเชื่อว่าการพัฒนาโครงการระดับบนยังสามารถทำได้ต่อเนื่อง เพราะกลุ่มนี้ ยังคงมีการเติบโต จากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงมีอยู่มาก และเป็นตลาดที่ไม่ค่อยมีผลกระทบ ที่ทำให้เกิดความอ่อไหวต่อการตัดสินใจซื้อจากปัจจัยกดดันต่างๆ ต่างจากตลาดระดับล่างที่กังวลต่อเรื่องภาวะเศรษฐกิจ มาตรการ LTV ที่เริ่มบังคับใช้"