กลางปี 2562 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ด้วยทรัพย์สิน จำนวน 1.99 แสนล้านบาท จากข้อมูลสำรวจของ Bloomberg Billionaires Index
และปีหน้า มหาเศรษฐีหน้าใหม่รายนี้จะร่ำรวยยิ่งขึ้นอีก ตามราคาหุ้นที่พุ่งทะยานไม่หยุด แม้ตลาดหุ้นจะทรุดลง เพราะมรสุมสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ก็ตาม
นายสารัชถ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GULF ซึ่งนิตยสารฟอร์บส์ ประมาณการว่า ถือหุ้นในสัดส่วน 72% ของทุนจดทะเบียน และคำนวณมูลค่าทรัพย์สินจากราคาหุ้นคูณกับจำนวนหุ้นที่ถืออยู่
แต่ราคาหุ้น GULF ที่เดินหน้าลูกเดียว ความร่ำรวยจึงพองโตตลอดเวลา
GULF เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 หลังนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 45 บาท
หุ้น GULF ถูกกระจายในวงกว้าง โดยเฉพาะโควตาผู้มีอุปการคุณ ซึ่งผู้ได้รับโควตาพากันร่ำรวยตามเจ้าของไปด้วย เพราะราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าบรรยากาศการลงทุนจะซบเซาหรือสดใส โดยเป็นหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อเทียบในกลุ่มเดียวกัน หรือจะเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่อย่าง ปตท. ก็ตาม
วิกฤตการณ์สงครามการค้ารอบล่าสุด ซึ่งฉุดให้ดัชนีหุ้นเดือนสิงหาคมทรุดลงเกือบ 100 จุด หุ้นกลุ่มพลังงานถูกต่างชาติถล่มจนรูดติดดิน แต่ GULF ทนทานต่อความผันผวน ขยับขึ้นสวนกระแส จนสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ 145.50 บาท ทำให้ระยะเวลาเพียง 1 ปีเศษนับจากเข้าจดทะเบียน ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา 100.50 บาท หรือปรับตัวขึ้นกว่า 200%
และไม่มีสัญญาณว่า GULF จะหมดแรงวิ่ง
ผลประกอบการ GULF ที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้หุ้นอยู่ในความสนใจของนักลงทุน โดย 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 2,896.02 ล้านบาท ขณะที่ระยะเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 1,269.71 ล้านบาท
แต่ราคาหุ้น GULF เมื่อเทียบปัจจัยพื้นฐานปัจจุบัน ถือว่าอยู่ในระดับสูง เพราะมีค่าพี/อี เรโช ประมาณ 65 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนไม่ถึง 1% ราคาที่เล่นกันอยู่จึงเป็นราคาที่ซื้ออนาคต ภายใต้ความคาดหวังว่า แนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นในเครือข่ายของนายสารัชถ์ ที่จะทำให้สามารถขยายโครงการลงทุนใหม่ได้
และปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดก็มีจำกัด โดยอยู่ในมือของนายสารัชถ์ กว่า 70% เมื่อปริมาณหุ้นหมุนเวียนน้อย แต่ความต้องการซื้อมีมากกว่า ราคาจึงทะยานขึ้นไม่หยุด
ถ้าเทียบหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกขนาดใหญ่ที่เป็นดาวรุ่งด้วยกัน เช่น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ชั่วโมงนี้ถือว่า GULF รุ่งสุดๆ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปใหญ่ที่สุด และราคาแข็งที่สุด
กลายเป็นหุ้นพี่ใหญ่ในกลุ่มพลังงานทางเลือก ถูกบรรจุเข้าสู่ทำเนียบหุ้นชั้นดีมีอนาคต และอยู่ในฐานะหุ้นยอดนิยม ที่มูลค่าซื้อขายติดอันดับท็อปเทนต่อเนื่อง
นักลงทุนที่เข้ามาลุย GULF นอกจากคาดหวังแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการแล้ว ยังมีโอกาสได้ลุ้น ปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น จากการแตกพาร์หรือแตกมูลค่าหุ้นด้วย
เพราะมูลค่าหุ้นเริ่มสูง จึงพร้อมประกาศแตกพาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายได้ตลอดเวลา เพียงแต่จะแตกจากพาร์ 5 บาท เหลือพาร์ 1 บาท หรือเหลือพาร์ 50 สตางค์เท่านั้น
ประมาณ 1 ปี 8 เดือนนับจากเข้าจดทะเบียน หุ้น GULF อยู่ในช่วงขาขึ้นเต็มตัว ราคาพุ่งทำลายสถิติสูงสุดไม่หยุดหย่อน
แต่ไม่มีหุ้นตัวใดที่จะเป็นขาขึ้นได้ตลอดกาล ถึงจุดหนึ่งจะต้องหยุด ถึงวันหนึ่งต้องพักปรับฐาน เพียงแต่จุดใดวันไหนจึงได้เวลาพักปรับฐานเท่านั้น
นักลงทุนที่วิ่งไล่ราคา ต้องระวังบ้างเหมือนกัน เพราะถ้าเข้าไปในช่วงเวลาที่หุ้นหยุดพัก อาจเสียจังหวะเก็บของแพงติดมือได้
แม้ GULF ไม่เคยทำให้ใครที่กล้าถือหุ้นไว้ต้องเจ็บตัวก็ตาม