หุ้นปิดเช้าดิ่ง 34.91 จุด เผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น กระทบสินทรัพย์เสี่ยงเกิดความผันผวน โดยตลาดบ้านเราปรับตัวลงแรงกว่าตลาดภูมิภาค เนื่องจากตลาดบ้านเรามีอนุพันธ์การเงินมาก นอกจากนี้ คาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะได้รับแรงกดดันจากหุ้นบางตัวที่เริ่มถูก Force sell แล้ว
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมาก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันหมดราว -0.8 ถึง -2.7% หลังจากที่เผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ใช้มาตรการด้านภาษีตอบโต้กัน ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงผันผวนตาม โดยตลาดบ้านเราได้รับแรงถ่วงจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภายนอกประเทศที่ปรับตัวลงกัน ขณะที่หุ้นจำพวก Domestic Plays ก็ปรับตัวลงตามตลาดฯไม่มากนัก
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราปรับตัวลงแรงกว่าตลาดภูมิภาค เนื่องจากตลาดบ้านเรามีอนุพันธ์การเงินมาก นอกจากนี้ คาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะได้รับแรงกดดันจากหุ้นบางตัวที่เริ่มถูก Force sell แล้ว อย่างหุ้น IVL ที่เช้านี้ปรับตัวลงมาก คาดว่าส่วนหนึ่งมาแรง Force sell ด้วย หลังจากที่ได้ปรับตัวลงมา 4 วันติดต่อกัน
สำหรับปัจจัยที่จะต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ MSCI Rebalance จะมีผลพรุ่งนี้ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมของจีน
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,611.77 จุด ลดลง 34.91 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.12% มูลค่าการซื้อขาย 32,796.24 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ โดยมีแนวรับ 1,610-1,606 จุด ส่วนแนวต้าน 1,623-1,629 จุด