อสังหาฯ เผยครึ่งปีแรก 2562 ทรุด วอนแบงก์ชาติ LTV ปลดล็อกเพิ่มถอดบ้านเดี่ยวออกจากมาตรการ หนุนตลาดต่างจังหวัดซื้อบ้าน พร้อมเผยบาทแข็ง เศรษฐกิจโลกทำลูกค้าจีนลดฮวบ
ภายหลังจากนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา “Property Focus 2019 episode || : อสังหาฯ พลิกเกมรุก จับโอกาสทอง” จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ออกไปก่อนหน้านี้จะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายในระบบมากขึ้น ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไปด้วย อีกทั้งที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีการปรับตัวได้ดีอยู่แล้ว
ส่วนมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV ก็ได้หารือกับสมาคมธนาคารไทย โดยได้สอบถามถึงการปล่อยกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธนาคารพาณิชย์ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ลูกค้าและผู้ประกอบการสามารถปรับตัวและเข้าใจถึงมาตรการที่ออกมา ทำให้การปล่อยกู้เริ่มขยับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะจับตาตลาดอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหากภาคอสังหาฯ ชะลอตัวรัฐบาลพร้อมที่จะออกมาตรการมาช่วยเหลือเพิ่มเติม
แนวราบกระทบหนักวอนปลดล็อกด่วน
นายพรนริส ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ยังคงชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงจากการบังคับใช้มาตรการ LTV ใหม่ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้ในบางเซกเมนต์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หดตัวถึงร้อยละ 30 รวมไปถึงบ้านแนวราบ ที่ไม่ใช่ตลาดเก็งกำไรหากเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งภาคอสังหาฯต้องการให้ ธปท.ผ่อนปรนเพิ่มเติม เช่น ปลดล็อกบ้านแนวราบไม่ต้องเข้ามาตรการ LTV หรือจะให้ดียกเลิกมาตรการ LTV เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น
“บ้านแนวราบไม่ควรใช้มาตรการบังคับ เพราะเป็นการซื้อเพื่ออยู่จริง คนมีความจำเป็นต้องมีบ้านหลังที่ 2 โดยเฉพาะในต่างจังหวัดซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ เช่น ข้าราชการบางคนย้ายไปทำงานในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่บ้านตนเอง ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย แต่มีบ้านมาแล้ว เขาต้องใช้เงินดาวน์สูงเพื่อซื้อบ้านหลังที่ 2 ทำ ให้กลุ่มนี้ไม่ต้องการซื้อเพิ่ม” นายพรนริศ กล่าว
บาทแข็ง-หยวนอ่อนทำลูกค้าจีนหาย 50%
ด้าน นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แนวทางกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องออกมาตรการจูงใจเพิ่มเติม เช่น ให้ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน เนื่องจากประเมินว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 จะติดลบประมาณ 2-3%
นอกจากนี้ ธปท.จำเป็นที่จะต้องดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนเกินไป เนื่องจากขณะนี้การเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนจีนลดลงถึงร้อยละ 50 โดยสัดส่วนต่างชาติที่เข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเทียบกับคนในประเทศอยู่ที่ 40 : 60 ซึ่งในจำนวนต่างชาติที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ เป็นชาวจีนสูงถึง 80% ของจำนวนต่างชาติที่เข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด โดยสาเหตุจากเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ประกอบกับเงินหยวนอ่อนค่าลง และเศรษฐกิจจีนที่มีปัญหาสงครามการค้า
“ภาครัฐอาจจะเข้ามากระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเสนอว่าอาจจะออกมาตรการลดภาษีค่าโอน และดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนเกินไปเพื่อลดผลกระทบ” นายชนินทร์ กล่าว
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ไม่ได้ชะลอตัวไปทุกตลาด ที่ได้รับผลกระทบมากคือที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าออกมามาก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอ ผู้ประกอบกับการพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีซัปพลายในตลาดมาก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอสังหาฯ ประเภทอื่นยังมีการเติบโตได้ดี เช่น อาคารสำนักงานที่มีอัตราเช่าอยู่ที่ระดับ 90-95% ขณะที่ค่าเช่าปรับขึ้นทุกปี รวมไปถึงโรงแรม ศูนย์การค้า โรงงานให้เช่า
