แบงก์กรุงเทพเผยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปีนี้ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 15%เหตุเศรษฐกิจโตชะลอ ขณะที่ยอดบัตรใหม่ยังโตได้ตามเป้าหมาย และจะติดตามพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น ห่วงกดเงินใช้ผิดประเภท ล่าสุดจับมือคาลเท็กซ์ใช้ระบบ Wireless EDC
นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ (BBL)กล่าวว่า ธุรกิจบัตรเครดิตของธนาคารในขณะนี้ มียอดฐานบัตรประมาณ 2.5 ล้านบัตร เพิ่มขึ้น 15%จากปีก่อนที่ 2.2 ล้านบัตร โดยคาดว่าสิ้นปีน่าจะปิดที่ 2.6-2.7 ล้านบัตร ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรน่าจะเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อนที่เติบโต 13% และคาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% โดยธนาคารไม่ได้มุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนหรือยอดใช้จ่ายบัตรมากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเติบโตในระดับที่ชะลอตัวลง แม้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นฤดูกาลของการจับจ่ายใช้สอย แต่ก็ไม่น่าจะเติบโตได้สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในฐานที่สูงเช่นกันมากนัก ส่วน หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ของธุรกิจบัตรเครดิตนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 2.1-2.2% สูงขึ้นจากปลายปีก่อนที่ 1.9% ซึ่งก็มาจากหลายสาเหตุ ทั้งจำนวนบัตรที่เพิ่มขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจทีชะลอลง
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องระมัดระวังในขณะนี้ คือเรื่องคุณภาพของลูกค้า ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ โดยลูกค้าใหม่จะเน้นกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท หรือกลุ่ม Pay Roll ก็จะพิจารณาได้เร็วขึ้นเพราะรับรู้รายได้ของลูกค้าอยู่แล้ว พร้อมกันนั้น ก็ยังคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของลูกค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีสัญญาณที่ไม่ดี อาทิ การใช้จ่ายก้อนใหญ่ผิดปกติจากเดิมมาก หรือกดเงินสดออกจากบัตรเป็นจำนวนมากกว่าที่เคยปฏิบัติมาก เป็นต้น ธนาคารก็จะดำเนินการได้ในหลายๆทาง เช่น พิจารณาลดวงเงินบัตร เป็นต้น ซึ่งกรณีอย่างนี้จะพิจารณาเป็นรายๆไป และติดตามทั้งลูกค้าใหม่และเก่า เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว
"ตอนนี้ กลุ่มที่ต้องติดตามมากหน่อยกลุ่มอาชีพอิสระอย่างแม่ค้าออนไลน์ หรือค้าปลีก เพราะภาวะเศรษฐกิจชะลอลงมาระยะหนึ่งแล้ว ก็จะเริ่มขายสภาพคล่องกันบ้าง สิ่งที่ต้องระวังก็คือการกดเงินสดออกไปใช้ในทางที่ไม่ควร อย่างเอาไปเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ เพราะดอกเบี้ยมันสูง เราก็ต้องเข้าไปดู ไปคุยว่า มีหลักประกันหรือไม่ หากมีเอามาใช้ค้ำประกันสินเชื่ออื่นที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าจะดีกว่า เป็นต้น ส่วนกลุ่มพนักงานที่มีเงินเดือนประจำยังไม่ค่อยน่าห่วง ถ้าเรายังเห็นถึงรายได้ของเขาที่ยังเข้ามาประจำอยู่"
**จับมือคาลเท็กซ์ใช้ระบบWireless EDC**
นอกจากนี้ ล่าสุดธนาคารได้ร่วมกับบริษัทเชฟรอน (ไทย) จำกัด เปิดให้บริการระบบชำระเงินจ่ายค่าน้ำมันผ่านเครื่องรูดบัตรแบบไร้สาย หรือ Wireless Electronic Data Capture (Wireless EDC)เต็มรูปแบบที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศที่มีจำนวน 366 แห่งและพร้อมใช้ระบบดังกล่าวได้แล้ว 97-98% ซึ่งจากการทดลองให้บริการ Wireless EDC ในบางสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์แล้วพบว่าได้รับการตอบรับที่ดี สามารถรองรับระบบชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ได้ทั้งแบบเสียบบัตรและสแกนผ่านระบบ Contactless ที่สะดวกกว่าเดืมที่ต้องให้พนักงานเติมน้ำมันนำบัตรไปรูดจ่ายที่แคชเชียร์ และในอนาคตอันใกล้ธนาคารจะพัฒนาให้รองรับการชำระผ่าน QR Code PrompPay และ E-Wallet เพิ่มขึ้นด้วย
ก่อนหน้าธนาคารกรุงเทพได้ร่วมกับคาลเท็กซ์ได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการและสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ บัตรธนาคารกรุงเทพ-คาลเท็กซ์ ฟลีการ์ด และ บัตรธนาคารกรุงเทพ-คาลเท็กซ์ เพื่อเป็นทางเลืกสำหรับองค์กรธุรกิจในการบริการจัดการค่าใช้จ่ายน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มียอดบัตรมากกว่า 1 แสนใบ พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันลูกค้าที่เติมน้ำมันที่คาลเท็กซ์และชำระด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพอินฟินิทจะได้รับเงินคืน 10% บัตรแพลทินัม/ไทยเทเนียมรับเงินคืน 2% และบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพอื่นรับเงินคืน 2%ก็ไดวรับการตอบรับที่ดีเช่นกัน