ธนาคารซิตี้ แบงก์ ประเทศไทย เปิดตัว “ออเธอไรเซชั่น คอร์เนอร์” (Authorization Corner) ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดบนแอปพลิเคชัน รวบรวมเอกสารออนไลน์ของทุกการทำธุรกรรมกับธนาคารฯ ไว้ในที่เดียว
นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้ แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารซิตี้ แบงก์ ประเทศไทย เปิดตัวฟีเจอร์บนซิตี้ โมบาย แอปพลิเคชันใหม่ล่าสุดในชื่อ “ออเธอไรเซชัน คอร์เนอร์ (Authorization Corner)” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ศูนย์กลางที่รวบรวมเอกสารออนไลน์ของทุกธุรกรรมกับธนาคาร ซึ่งปัจจุบันเริ่มต้นการใช้งานสำหรับลูกค้าการลงทุน ที่ให้ลูกค้าสามารถยืนยันการซื้อขายหน่วยลงทุนกับธนาคารได้ง่าย และรวดเร็ว โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบคำสั่งการลงทุนด้วยตนเอง ก่อนยืนยันเอกสารดังกล่าวได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน และสามารถเรียกดูประวัติการทำคำสั่งผ่านแอปดังกล่าวได้ตลอดเวลา โดยเริ่มต้นใช้งานในการยืนยันเอกสารคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ให้ทุกการลงทุนสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย ตอบโจทย์การใช้งานดิจิทัลไลฟ์สไตล์สำหรับคนยุคใหม่มากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สาขาเพียงเพื่อรอเซ็นเอกสาร สามารถใช้เวลาเพียงประมาณ 5-10 นาทีในการทำธุรกรรมได้ง่ายๆ ใน 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1.เข้าสู่ซิตี้ โมบาย แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน 2.เข้าไปที่การตั้งค่า เลือก “เอกสารการทำธุรกรรม” 3.ตรวจสอบรายละเอียดเอกสารคำสั่งซื้อขาย 4.ยืนยันการทำรายการด้วยรหัสโอทีพี พร้อมเตรียมขยายการใช้งานฟีเจอร์ครอบคลุมทุกธุรกรรมที่จำเป็นต้องใช้เอกสาร ให้เสร็จสมบูรณ์ได้ผ่านศูนย์กลางที่ลูกค้าเข้าถึงได้ตลอดเวลาอย่างซิตี้ โมบาย แอปพลิเคชัน ในที่เดียว
นายดอน กล่าวเพิ่มว่า ลูกค้าสามารถยืนยันทุกคำสั่งการซื้อขายหน่วยลงทุนได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาอันสั้นด้วยตนเอง และไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สาขา หรือรอเซ็นเอกสารใน 4 ขั้นตอน ดังนี้
1.เข้าสู่ซิตี้ โมบาย แอปพลิเคชัน หลังจากปรึกษาคำสั่งซื้อขายกับเจ้าหน้าที่ดูแลบัญชี (Relationship Manger)
2.ไปที่ฟีเจอร์ “เอกสารการทำธุรกรรม” หรือ “ออเธอไรเซชัน คอร์เนอร์ (Authorization Corner)”
3.ตรวจสอบรายละเอียดของการซื้อขายบนเอกสารออนไลน์ได้ทันที ก่อนการยืนยัน หรือยกเลิกคำสั่งธุรกรรม
4.ใส่รหัสโอทีพี (OTP : One Time Password หรือชุดรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว) เพื่อยืนยันการทำรายการได้ทันที
ฟีเจอร์ดังกล่าวเข้ามายกระดับการบริการด้วยระบบดิจิทัล ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่สาขาเพื่อเซ็นรับรองเอกสารตอบโจทย์ใช้งานสำหรับคนยุคใหม่มากยิ่งขึ้น และรองรับการเติบโตจำนวนลูกค้าฝั่งธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 30% ภายในสิ้นปี 2562
นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังเตรียมพัฒนาและขยายการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว เพื่อให้ครอบคลุมทุกธุรกรรมของลูกค้าที่ต้องใช้เอกสาร เช่น การเปิดบัญชีออมทรัพย์ในสกุลเงินต่างประเทศกว่า 8 สกุลเงิน การเปิดบัญชีกองทุนเพิ่มเติมได้ทันที เพื่อความสะดวกรวดเร็วของลูกค้า และให้ทุกการทำกิจกรรมกับธนาคารเสร็จสมบูรณ์ได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างซิตี้ โมบาย แอปพลิเคชัน บนสมาร์ทโฟนได้ในครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯ มีแนวคิดในการพัฒนาบริการ โดยนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยสร้างความสะดวกสบายและรวดเร็วให้แก่ลูกค้า และในขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริการในรูปแบบ human-to-human touch ที่ลูกค้าสามารถรับคำแนะนำด้านการลงทุนอย่างเป็นส่วนตัวจากที่ปรึกษาการลงทุน (Financial Investment Advisor) และเจ้าหน้าที่ดูแลบัญชี (Relationship Manger) โดยเจ้าหน้าที่จะนำเสนอพอร์ตโฟลิโอและผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านการเติบโตของการลงทุน การบริการ และความรวดเร็ว เพราะสำหรับการลงทุนนั้น ทุกนาทีของลูกค้าหมายถึงการเติบโตของสินทรัพย์ ซึ่งซิตี้โกลด์มุ่งมั่นมอบบริการที่ช่วยให้การลงทุนของลูกค้าเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงมอบคำแนะนำด้านการลงทุนที่ตอบโจทย์ตามความต้องการ ตรงเป้าหมายการเติบโตทางการเงินพร้อมช่วยให้ลูกค้าถึงเป้าหมายได้เร็วและมั่นคงอย่างดีที่สุด นายดอน กล่าวสรุป